รีวิว 10 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี [2024] กรองฝุ่น และเชื้อโรค ราคาไม่แพง

เราต้องเผชิญสภาวะฝุ่นละอองในอากาศที่ค่อนข้างจะเยอะมากๆ แทบจะไม่มีอากาศที่บริสุทธิ์เลย ยิ่งเป็นในเมืองฝุ่นควัน PM 2.5 ก็ยิ่งเยอะ และยังมีเชื้อไวรัสโควิด – 19 ที่ลอยอยู่ในอากาศ ทำให้อันตรายสุขภาพเป็นอย่างมาก ดังนั้นเราจึงจำเป็นที่ต้องมีตัวช่วยในการทำให้อากาศสะอาด บริสุทธิ์ สดชื่น ในเวลากลับบ้าน นั้นก็คือ เครื่องฟอกอากาศภายในบ้านค่ะ แน่นอนค่ะ เครื่องฟอกอากาศจะมีตัวกรองฝุ่น กรองขน หรือสิ่งสกปรก ที่ลอยอยู่ในอากาศ พร้อมทั้งมีตัวเซ็นเซอร์ คอยตรวจจับไวรัส แบคทีเรียที่เรามองไม่เห็นในอากาศ และกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ด้วยเมื่อกรองฝุ่นในอากาศแล้วจะค่อยๆ ฟอกอากาศให้สดชื่น บริสุทธิ์ ทำให้เราได้สูดอากาศที่ดีเข้าปอด ดีต่อสุขภาพด้วยค่ะ แต่เครื่องฟอกอากาศมีหลายยี่ห้อ หลายรุ่นให้เลือก มีฟังก์ชั่นที่ต่างกันไป หลายคนอาจจะลังเลเลือกไม่ถูก วันนี้มินนี่มีมาแนะนำค่ะกับ 10 เครื่องฟอกอากาศ ยี่ห้อไหนดี ฟังก์ชั่นครบ ปลอดภัยได้มาตรฐาน ฟอกอากาศได้ดี ไปดูกันเลย

วิธีเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ

หากคุณกำลังเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ ควรมีข้อพิจารณาอะไรบ้างในการเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ เพื่อประกอบการตัดสินใจเพื่อให้ได้เครื่องฟอกอากาศที่มีประสิทธิภาพในการใช้งาน

1. ตัวกรองของเครื่องฟอกอากาศ
   ก่อนเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศ เราควรดูชนิดของตัวกรองด้านในว่าเป็นกรองชนิดไหน เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องกรองอากาศ และยังเป็นส่วนประกอบสำคัญที่ช่วยกรองอากาศได้ดีค่ะ ตัวกรองในเครื่องฟอกอากาศนั้นมีหลายชนิด ได้แก่
   • ตัวกรองพรีฟิลเตอร์ ตัวนี้ช่วยกรองฝุ่นละอองขนาดใหญ่ เช่น ขนสัตว์ หากบ้านไหนมีสัตว์เลี้ยงภายในบ้านควรเลือกเครื่องฟอกอากาศที่มีตัวกรองพรีฟิลเตอร์เพราะมีประสิทธิภาพสูง ดักจับขนสัตว์ได้อย่างดีค่ะ
   • ตัวกรอง HEPA หรือHigh Efficiency Particulate Air ตัวนี้ช่วยขจัดฝุ่นละอองขนาด 0.1 ไมครอน หรือฝุ่นที่มีใหญ่ได้ถึง 99.98% และยังช่วยกรองฝุ่นผง เชื้อแบคทีเรีย หรือละอองต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ จะเหมาะกับผู้ที่มีอาการหอบหืด หรือภูมิแพ้ ซึ่งตัวจะมีตัวกรองชนิด HEPA-like และ HEPA-type ประเภท HEPA ที่คล้ายกันนะคะต้องดูให้ดีเพราะบางตัวไม่ได้ผ่านการรับรองและไม่ได้คุณภาพการใช้งานที่เท่าเทียมกับตัวกรอง HEPA แท้ ค่ะ
   • ตัวกรอง Activated carbon ตัวกรองตัวนี้จะดักจับสารละอองที่เป็นอันตราย อย่างรวดเร็ว และช่วยกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ กลิ่นสารเคมีต่างๆ เช่น แก๊ส ควัน กลิ่นอาหาร เป็นต้นค่ะ
   • ตัวกรอง UV-C ตัวนี้จะมีรังสี UV-C ที่ช่วยกำจัด และป้องกันเชื้อแบคทีเรีย และเชื้อโรค เชื้อไวรัสต่างๆ ที่อยู่ตามอากาศ เพราะเป็นสิ่งที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาค่ะ
2. เลือกขนาดของเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับห้อง
   การเลือกขนาดเครื่องฟอกอากาศให้เหมาะสมกับห้องที่เราใช้ก็มีส่วนสำคัญเช่นเดียวกันค่ะ เพราะถ้าเลือกขาดที่ไม่พอดีกับห้องที่ใช้อาจจะทำให้การฟอกอากาศได้ไม่ดี ไม่ทั่วถึง หรือถ้าหากห้องเล็กไปเลือกฟอกอากาศขนาดใหญ่ก็จะทำให้เปลืองไฟโดยใช่เหตุค่ะ
3. เลือกที่ได้มาตรฐานความปลอดภัยมอก.
   ควรเลือกซื้อเครื่องฟอกอากาศที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยมีเครื่องหมาย มอก. เพราะทำให้เรามั่นใจในสินค้านั้นๆได้ว่ามีความปลอดภัยในการใช้งาน
4. เช็คราคา
   เครื่องฟอกอากาศมีหลายยี่ห้อ หลายแบบให้เลือกซื้อ เราก็ควรเช็คราคาแต่ละแบรนด์ให้ดีก่อน เพราะบางตัวราคาต่างกันมากแต่ฟังก์ชั่นการทำงานเหมือนกัน หรือฟังก์ชั่นต่างกันไม่มากแต่ราคาพอๆกัน ดังนั้นราคาจึงเป็นปัจจัยที่มีผลต่อการพิจารณาตัดสินใจในเลือกซื้อค่ะ
5. ฟังก์ชั่นเสริม
   ฟังก์ชั่นเสริมในเครื่องฟอกอากาศก็มีส่วนสำคัญในการเลือกซื้อเช่นเพราะ จะทำให้เราสะดวกสบายมากขึ้น เช่น
   • ฟังก์ชั่นเพิ่มความชื้นในอากาศ Humidification Function ฟังก์ชั่นนี้จะช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิวเราเวลานั่งตากแอร์นานๆ แล้วผิวแห้งค่ะ
   • ฟังก์ชั่นการดักยุง Mosquito Catching Function จริงๆ เครื่องดักจับยุงก็จะมีขายแยกอยู่แล้วแต่จะดีกว่าไหมถ้ามีอยู่ในเครื่องฟอกอากาศ เพราะจะได้ไล่ยุงไปด้วยในตัว ซื้อเครื่องเดียวจบเลย
   • เครื่องที่มีระบบ UV Light กับ ระบบ Ozone generator โดยจะใช้รังสีอัลตราไวโอเลตมาใช้ หรือการปล่อยกระแสไฟฟ้าในการสร้างโอโซนเพื่อฆ่าเชื้อโรค และกำจัดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์ต่างๆ
   • ฟังก์ชั่นพิเศษ เช่น มีปุ่มล็อคป้องกันเด็กมากดเล่น ฟังก์ชั่นเปิดปิดเครื่องอัตโนมัติ ฟังก์ชั่นปิดแสงสว่างในตอนกลางคืน และฟังก์ชั่นโหมดนอนหลับ ค่ะ

ข้อดี และข้อเสียเครื่องฟอกอากาศ

ข้อดี
เครื่องฟอกอากาศสามารถการกำจัดฝุ่นอนุภาคเล็กที่มีความละเอียดมากๆ ได้ถึง 99.97% และมีการกรองหลายชั้น ช่วยปกป้องระบบทางเดินหายใจของเราจากเชื้อไวัส แบคทีเรีย ขนสัตว์ ละอองเกสร ฝุ่น ควัน สะเก็ดผิวหนัง และเส้นใยฝ้ายที่อยู่ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ นอกจากนี้ยังดูดซับกลิ่น หรือก๊าซอันตราย VOC กลิ่นจากอาหาร กลิ่นฟอร์มาลดีไฮด์ โทลูอีน และกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้ดีด้วยถ่านกัมมันต์คุณภาพสูง ทำให้อากาศในห้องเปลี่ยนเป็นอากาศที่บริสุทธิ์ สดชื่น เหมือนอยู่ในธรรมชาติ

ข้อเสีย
ถึงแม้ว่าเครื่องฟอกอากาศจะช่วยเปลี่ยนอากาศที่เต็มไปด้วยฝุ่นละอองให้เป็นอากาศที่บริสุทธิ์ได้ แต่ก็ได้แค่เฉพาะในห้องที่มีเครื่องฟอกอากาศเท่านั้น บริเวณอื่นของบ้านที่ไม่มีเครื่องฟอกอากาศก็ยังคงมีฝุ่น หรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์อื่นๆ อยู่ค่ะ ดังนั้นถึงจะมีเครื่องฟอกอากาศแล้ว ก็ควรที่จะต้องทำความสะอาดบ้านอยู่สม่ำเสมอเพื่อสุขอนามัยที่ดีของทุกคนในครอบครัวด้วยนะคะ และที่สำคัญเครื่องฟอกอากาศบางรุ่นมีราคาสูงมาก

1. เครื่องฟอกอากาศ Dyson รุ่น Formaldehyde TP09

เครื่องฟอกอากาศพรีเมี่ยมจากแบรนด์ Dyson รุ่น Formaldehyde TP09 รุ่นใหม่ล่าสุดตัวนี้มาพร้อมระบบดักจับ และสลายโมเลกุลฟอร์มาลดีไฮด์ ให้กลายเป็นน้ำ และคาร์บอนไดออกไซด์ มีตัวกรองถ่านกัมมันต์สามารถดักจับฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ และไวรัส 99.9% และมีตัวกรอง HEPA H13 ที่กรองก๊าซ และสารก่อมลพิษขนาดเล็กมากอื่นๆ เครื่องกรองอากาศ Dyson ยังมีเทคโนโลยี Air Multiplier ที่ทรงพลังเพื่อกรองอากาศทั่วทั้งห้องสามารถตรวจจับฟอร์มาลดีไฮด์ได้อย่างแม่นยำ มีเซ็นเซอร์อัจฉริยะแบบโซลิดสเตตเพื่อตรวจจับโมเลกุลฟอร์มาลดีไฮด์ที่มีขนาดเล็กกว่า 0.1 ไมครอน ได้ถึง 500 เท่า อย่างแม่นยำ ตลอดจนอายุการใช้งานของตัวเครื่องค่ะ รุ่นนี้จะสร้างการหมุนเวียนที่ทรงพลังเพื่อดูดสารมลพิษที่อยู่ไกลออกไปเข้ามาในตัวเครื่อง แล้วกระจายอากาศที่กรองแล้วไปทั่วห้อง ทำลายฟอร์มาลดีไฮด์ได้อย่างต่อเนื่อง เซ็นเซอร์ในตัวเครื่องจะคอยวิเคราะห์อากาศรอบตัวคุณอย่างต่อเนื่อง โดยจะตรวจสอบความถูกต้องของข้อมูลต่างๆ ทุกวินาที รับรู้ และรายงานผลอัตโนมัติโดยจะวิเคราะห์สารมลพิษในระดับโมเลกุล พร้อมแสดงผลแบบสดบนหน้าจอ LCD และสามารถหมุนได้ 350 องศา สำหรับใครที่ชอบเครื่องฟอกอากาศที่มีความทันสมัยพรีเมี่ยม ดีไซน์สวย ฟังก์ชั่นครบ ได้มาตรฐานแนะนำ Dyson รุ่นนี้เลยค่ะ

ยี่ห้อ	Dyson
ราคา	฿32,900

2. PHILIPS รุ่น AC1215

เปลี่ยนอากาศภายในห้องให้สะอาดบริสุทธิ์อย่างมีประสิทธิภาพด้วยเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ PHILIPS รุ่น AC1215 รุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีการฟอกอากาศ VitaShield IPS มีแผ่นกรองมีความหนาพิเศษ และมีถึง 3 ชั้น ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกรองอากาศให้ดียิ่งขึ้น พร้อมทั้งช่วยขจัดสารก่อภูมิแพ้ได้ถึง 99.97% ค่ะ และยังช่วยขจัดฝุ่นอนุภาคขนาดเล็กกว่า 20 นาโนเมตร รวมถึงสารประกอบอินทรีย์ที่ระเหยง่าย มีระบบNanoProtect Pro AQI sensor เซ็นเซอร์ที่คอยตรวจจับมลภาวะในอากาศ และรายงานผลแบบเรียลไทม์ จอแสดงผลคุณภาพอากาศเปลี่ยนสีไฟได้ 4 สี มีระบบ NightSense เมื่อดับไฟในห้อง เครื่องจะปิดแสงรบกวน และปรับให้ทำงานเงียบ ทำให้คุณหลับ ไร้เสียงรบกวนการในการพักผ่อนของคุณ เครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ เหมาะกับขนาดห้องประมาณ 63 ตารางเมตร หากคุณต้องการเครื่องฟอกอากาศคุณภาพดี ประสิทธิภาพเยี่ยม ราคาไม่แพง แนะนำเครื่องฟอกอากาศ PHILIPS รุ่นนี้เลยค่ะ

ยี่ห้อ	PHILIPS
ราคา	฿5,490

3. เครื่องฟอกอากาศ XIAOMI รุ่น AIR PURIFIER 4

เครื่องฟอกอากาศ แบรนด์ Xiaomi Smart รุ่น Air Purifier 4 โดยเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้สามารถปล่อยอากาศบริสุทธิ์ได้มากถึง 6,660 ลิตรต่อนาที และสามารถกระจายอากาศที่บริสุทธิ์ให้เข้าถึงทั่วทุกมุมของบ้าน ครอบคลุมทุกพื้นที่ขนาด 28 – 48 ตร.ม ตัวกรองผลิตจากวัสดุคุณภาพดี และถ่านกัมมันต์คุณภาพสูง ช่วยขจัดมลพิษในอากาศซึ่งอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคุณ อีกทั้งยังสามารถตรวจสอบสถานะผ่านจอ LED ที่แสดงผลแบบเรียลไทม์ และยังควบคุมการทำงานได้ง่ายด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเดียว ไม่เพียงเท่านี้ยังมีประสิทธิภาพในการกำจัดฝุ่นอนุภาคเล็กที่มีความละเอียดขนาด 0.3 ไมครอนได้ถึง 99.97% เพราะมีการกรองแบบ 3 in 1 ช่วยปกป้องระบบทางเดินหายใจของเราจากขนสัตว์ ละอองเกสร ฝุ่น ควัน สะเก็ดผิวหนัง และเส้นใยฝ้ายอย่างมีประสิทธิภาพค่ะ นอกจากนี้ยังดูดซับกลิ่น หรือก๊าซอันตราย VOC กลิ่นจากอาหาร กลิ่นฟอร์มาลดีไฮด์ โทลูอีน และกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้ดีด้วยถ่านกัมมันต์คุณภาพสูง สำหรับเครื่องฟอกอากาศรุ่นนี้ ถือว่าน่าใช้ และคุ้มค่าแก่ซื้อใช้มากๆ ค่ะ แนะนำเลย

ยี่ห้อ	Xiaomi
ราคา	฿6,990

4. SHARP รุ่น FP-J40TA-W

เครื่องฟอกอากาศ SHARP รุ่น FP-J40TA-W รุ่นนี้มาพร้อมเทคโนโลยีที่ทันสมัยมีระบบพลาสม่าคลัสเตอร์แบบเข้มข้น สามารถฆ่าเชื้อโรค เชื้อรา เชื้อแบคทีเรียในอากาศ และกำจัดกลิ่นอับชื้น หรือกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ นอกจากนี้ยังมาพร้อมระบบตรวจจับสารที่ก่อให้เกิดภูมิแพ้จากไรฝุ่น มีแผ่นกรองฝุ่นคุณภาพสูงแบบ HEPA ที่ดักจับฝุ่นละอองขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอนได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้อากาศสะอาดสดชื่นมากยิ่งขึ้น มีเซนเซอร์ตรวจจับฝุ่น พร้อมไฟแสดงสภาวะความสะอาดของอากาศ Clean Sign มีแรงลมดูดที่ทรงพลัง และมีทิศทางลมดูดแบบพิเศษสามารถเก็บฝุ่นละอองได้อย่างรวดเร็ว สะดวกใช้งานง่ายด้วยฟังก์ชันตั้งเวลา 2 – 8 ชั่วโมงรุ่นนี้เหมาะกับห้องที่มีขนาด 30 ตารางเมตรค่ะ สำหรับคนไหนที่ต้องการ เครื่องฟอกอากาศ ที่ดีไซน์ทันสมัย ฟังก์ชั่นครบ แบรนด์ SHARP รุ่นนี้เป็นช้อยที่ดีเลยค่ะ

ยี่ห้อ	SHARP
ราคา	฿8,990

5. TEFAL รุ่น PT3030F0

เครื่องฟอกอากาศ TEFAL รุ่น PT3030F0 รุ่นนี้มีระบบเซนเซอร์ตรวจจับอากาศอัจฉริยะสามารถตรวจจับฝุ่น PM2.5 สารพิษ และสารก่อภูมิแพ้ได้สูงสุด 99.99% มาพร้อมแผ่นกรองอากาศ 3 ชั้นมั่นใจในการกรองอากาศอย่างมีประสิทธิภาพ และสามารถกรองอากาศได้อย่างรวดเร็ว เพียง 6 นาที มีไฟบอกคุณภาพอากาศ มาพร้อมโหมด Auto day night mode เครื่องจะปรับสปีดการกรองอากาศอัตโนมัติตามคุณภาพอากาศภายในห้อง โดยจะปรับระดับ 2 – 3 ใน day mode และ 1 – 2 ใน night mode ใช้งานได้สะดวกสบาย นอกจากนี้ยังมีระบบตั้งเวลาปิดอัตโนมัติ 1 – 8 ชั่วโมงได้ตามความต้องการ และยังมีระบบ Child lock ป้องกันเด็กมากดด้วยค่ะ เหมาะกับห้องที่มีขนาด 120 ตารางเมตร ถ้ามองหาเครื่องฟอกอากาศขนาดกะทัดรัด ใช้งานง่าย ได้มาตรฐาน TEFAL รุ่น PT3030F0 ตัวนี้ ตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะ

ยี่ห้อ	TEFAL
ราคา	฿5,990

6. ELECTROLUX FA41-403BL

มาเปลี่ยนอากาศในห้องให้บริสุทธิ์ ด้วยเครื่องฟอกอากาศจากแบรนด์ ELECTROLUX รุ่น FA41-403BL รุ่นนี้มาพร้อมประสิทธิภาพการกรองถึง 5 ขั้นตอนคือ Pre Anti-bacterial ดักจับเชื้อแบคทีเรีย ไวรัส เชื้อโรคต่างๆ / HEPA HEPA13 ช่วยกรองฝุ่น ต่างๆ ขนาดเล็ก Activated Carbon มีถ่านกัมมันต์ ช่วยกำจัดกลิ่นต่างๆ ได้ดี และ UV-C ตัวนี้จะช่วยฆ่าเชื้อโรคต่างๆ อีกชั้น เพื่อผลิตอากาศที่สะอาดบริสุทธิ์ และดีต่อสุขอนามัยของคุณ มีเซ็นเซอร์ตรวจจับฝุ่นละออง PM1 PM2.5 และ PM10 ที่กรองได้ละเอียด 0.3 ไมครอน และยังสามารถกำจัดเชื้อโรค ป้องกันแบคทีเรียได้สูงสุดถึง 99.9% สามารถควบคุมการทำงานด้วยระบบสัมผัส รุ่นนี้มาพร้อม Auto Mode และ Sleep mode ให้เราเลือกปรับได้ มีจอ LED แสดงผลคุณภาพอากาศแบบเรียลไทม์ และมีไฟแจ้งเตือนเมื่อต้องเปลี่ยนแผ่นกรอง และมีปุ่ม Child lock ช่วยป้องกันอันตรายจากเด็กที่มากดเล่นด้วยค่ะ เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดไม่เกิน 50 ตารางเมตร เป็นเครื่องฟอกอากาศอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าใช้ และตอบโจทย์การใช้งานได้ดีมากๆ เลยค่ะ

ยี่ห้อ	ELECTROLUX
ราคา	฿7,590

7. LG PuriCare New 360 รุ่น AS10GDSH0.ABAE

LG เครื่องฟอกอากาศ รุ่น AS10GDSH0.ABAE รุ่นนี้มาพร้อมแผ่นกรองที่ช่วย กำจัดเชื้อแบคทีเรีย เชื้อไวรัส ฝุ่นขนาดใหญ่ ฝุ่นอนุภาคขนาดเล็ก 0.01μm สารก่อภูมิแพ้ ไรฝุ่น เชื้อรา ได้ถึง 99.99% ทั้งนี้ยังกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็ก PM1.0 ได้ถึง 0.01 ไมครอน และมีแผ่นกรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ภายในบ้าน ขจัดก๊าซที่เป็นอันตราย อะซีตัลดีไฮด์ แอมโมเนีย NH3 กรดอะซิติก และสารระเหยฟอร์มาลดีไฮด์ HCHO สารที่ก่อให้เกิดสารพิษ NO2 SO2 ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถกระจายอากาศได้ทั่วถึง 360 องศา มีSafe Plus ฟิลเตอร์ ตาข่ายพรีฟิลเตอร์ที่สามารถถอดล้างทำความสะอาดได้ มีโหมด Baby Care กระจายลมส่วนกลางของตัวเครื่องลงสู่พื้นเพื่อมอบอากาศบริสุทธิ์สะอาดแก่ลูกน้อย ควบคุมการทำงานด้วย แอปพลิเคชัน LG ThinQ ทำให้สะดวกสบายยิ่งขึ้น สำหรับบ้านไหนที่มีลูกน้อย เลือกใช้รุ่นนี้เลยค่ะเพื่ออากาศที่ดีสำหรับคุณ และคนในครอบครัว คุ้มค่ากับราคาแน่นอนค่ะ

ยี่ห้อ	LG
ราคา	฿34,890

8. HAIER รุ่น KJF600KCAA

HAIER เครื่องฟอกอากาศ รุ่น KJF600KCAA รุ่นนี้สามารถกำจัดฝุ่นละอองขนาดเล็กถึง 0.3 ไมครอน ซึ่งเล็กกว่า PM 2.5 ถึง 8 เท่า และยังตรวจจับ เขม่า ฝุ่นละอองเกสร อนุภาคอื่นๆ โดยจะปล่อยไอออนไฟฟ้าเป็นประจุลบเพื่อดักจับฝุ่นได้อย่างมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น ใช้เวลากรองอากาศ เพียง 18 นาที ในพื้นที่ใหญ่ถึง 60 ตร.ม. ก็ทำให้อากาศสดชื่น รุ่นนี้มีตัวกรอง 3 ชั้น คือ 1. Pre Filter กรองฝุ่นขนาดใหญ่ 2. HEPA Filter กรองฝุ่นขนาดเล็กที่มองไม่เห็น 3. Carbon Filter กรองกลิ่นไม่พึงประสงค์ ฟิลเตอร์คาร์บอนดูดกลิ่น และสามารถกำจัดสารฟอร์มาลดีไฮด์ เบนซิน แอมโมเนีย นิโคตินและก๊าซ กับกลิ่นที่เป็นอันตรายอื่นๆ และมีเซ็นเซอร์อัจฉริยะวัดค่าคาร์บอนไดออกไซด์ และตรวจจับกลิ่นแอลกอฮอล์หรือก๊าซมีเทนได้ดี และมีสีแสดงคุณภาพอากาศสามสี คือ แดง ฟ้า เขียว มาพร้อมมีฟังก์ชั่นล็อคป้องกันเด็ก มีการแจ้งเตือนเมื่อต้องเปลี่ยนไส้กรอง ปรับความเร็วพัดลมได้ 4 ระดับ และมีโหมดฟอกอากาศแบบความเร็วสูง ตั้งเวลาปิดเครื่องได้ 1- 8 ชั่วโมง รวมถึงตั้งโหมดการนอนหลับได้ ทำให้พักผ่อนได้อย่างสบายใจถือว่าเป็นเครื่องฟอกอากาศที่น่าใช้ ปลอดภัย คุณภาพดี แนะนำเลยค่ะ

ยี่ห้อ	HAIER
ราคา	฿10,900

9. เครื่องฟอกอากาศ DAIKIN รุ่น MC55UVM6-7

เครื่องฟอกอากาศ DAIKIN รุ่น MC55UVM6-7 รุ่นนี้มาพร้อมระบบป้องกันไฟตกไฟกระชาก สามารถทำงานในสภาวะที่ไฟไม่คงที่ มีระบบฟอกอากาศภายในเครื่อง Streamer และระบบฟอกอากาศภายนอกเครื่อง Active Plasma Ion Streamer ตัวระบบจะทำการปล่อยประจุพลาสม่าด้วยอิเล็กตรอนความเร็วสูง ดักจับเชื้อไวรัส แบคทีเรีย เชื้อรา และสารก่อภูมิแพ้ รวมถึงสิ่งสกปรกที่อยู่ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีระบบ Active Plasma Ion เป็นระบบที่ปล่อยประจุลบเข้มข้นสูง 25,000 ไอออน นอกจากนี้ยังมีระบบ Deodorizing Filter ฟิลเตอร์ช่วยกรองกลิ่นแบบคาร์บอน สามารถกำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ต่างๆ ได้อย่างดีตลอดอายุการใช้งาน มาพร้อมเซนเซอร์หน้าเครื่องที่คอยวัดค่าระดับฝุ่นขนาดเล็กกว่า PM2.5 ได้ละเอียดถึง 6 ระดับ ตัวเครื่องทำงานเงียบ มีช่องลมออกขนาดใหญ่ ทำให้ระดับเสียงลมลดลง เหมาะสำหรับห้องที่มีขนาดพื้นที่ไม่เกิน 41 ตารางเมตรค่ะ ถ้ายังไม่มีแบรนด์เครื่องฟอกอากาศที่ถูกใจ DAIKIN รุ่นนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีเลยค่ะ แนะนำ

ยี่ห้อ	DAIKIN
ราคา	฿11,990

10. Worldtech รุ่น WT-P50

Worldtech เครื่องฟอกอากาศ รุ่น WT-P50 ผลิตจากวัสดุคุณภาพดี แข็งแรง รุ่นนี้มีตัวกรอง HEPA Filter เกรด H11 กรองได้ถึง 4 ชั้น เป็น HEPA ของแท้ และถ่านกัมมันต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถดักจับฝุ่นที่มีอนุภาคเล็ก 0.3 ไมครอน ได้ถึง 99.97 % สามารถกรองละอองเกสร กลิ่นควันบุหรี่ PM 2.5 แบคทีเรีย เชื้อรา ไวรัส สารก่อภูมิแพ้ และสารอันตรายอื่นๆ ในอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพค่ะ มีปุ่มกดการทำงานของประจุไอออนลบ เพื่อฟอกอากาศให้ทุกห้องของคุณมีอากาศบริสุทธิ์ ด้วยอัตราการส่งผ่านอากาศ 250 ลูกบาศก์เมตร ต่อ ชั่วโมง มาพร้อมฟังก์ชั่นเมนูการใช้งานภาษาไทย เป็นระบบสัมผัส มีค่าบอกสถานะอากาศ ดีไซน์สวย ทันสมัย มีโหมดการทำงาน 3 แบบ คือ ออโต้ เงียบ และกำหนดเอง แรงลมปรับได้ 3 ระดับ คือ ต่ำ กลาง สูง นอกจากนี้ยังสามารถตั้งเวลาเปิดปิดได้สูงสุด 12 ชั่วโมง การทำงานของเครื่องนี้ค่อนข้างเงียบ ทำให้คุณพักผ่อนได้อย่างสบายใจ และมีรีโมทควบคุมการใช้งานได้จากระยะไกลด้วยค่ะ เหมาะกับพื้นที่ใหญ่ขนาด 40 – 55 ตรม. หากใครต้องการเครื่องฟอกอากาศขนาดใหญ่ ราคาประหยัด ฟังก์ชั่นดี ปลอดภัย แนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ ราคาไม่แพง

ยี่ห้อ	Worldtech
ราคา	฿1,890