รีวิว 10 ครีมทาส้นเท้าแตก ยี่ห้อไหนดี [2024] ลดรอยแตก เท้านุ่มช่มชื่น เนียนเรียบ

ครีมทาส้นเท้า ยี่ห้อไหนใช้ดี

เท้า ถือเป็นอวัยวะที่สำคัญของร่างกาย แต่บางครั้งที่เราละเลย ไม่ค่อยได้ใส่ใจในการบำรุง จนเกิดปัญหาส้นเท้าแตก เนื่องจากหลายๆ ปัจจัยไม่ว่าจะด้วยการเสียดสีกับสิ่งต่างๆภายนอก หรือการรับน้ำหนักตัวของแต่ละบุคคล โดยส้นเท้าเป็นจุดที่ทุกคนอาจจะมองข้าม แต่ถ้าเกิดการแตก แห้งกร้านแล้ว จะทำให้เรายิ่งเกิดความรำคาญใจ ทั้งไปเกี่ยวเส้นด้ายบนที่นอน พรมเช็ดเท้า และรวมไปถึงความสวยงามของเท้าเราอีกด้วย ซึ่งวิธีการป้องกันเบื้องต้นแนะนำง่ายๆคือ หลีกเลี่ยงการเดินเท้าเปล่า เพราะการที่เท้าเราได้สัมผัสกับพื้นปูน ดิน หรือกระเบื้องภายนอก ต่างก็เป็นสาเหตุให้ส้นเท้าแตกได้ ซึ่งพื้นดังกล่าวนั้นมีความหยาบแข็งแถมยังลดความชุ่มชื่นของผิวลงไปอีก แต่ด้วยวิธีการนี้ก็ไม่ได้การันตีว่าจะไม่ทำให้เท้าเราเกิดปัญหา และเมื่อเท้าได้แตกไปแล้วก็ยากที่จะกู้คืนกลับมา บางคนอาจจะเลือกตัวช่วยอื่นๆ อย่างเช่น การขูดผิวที่แตกออก ทาครีมบำรุง และทำสปาเท้า โดยวิธีที่ได้ผลลัพธ์ดี แถมยังเป็นที่นิยม ลงทุนน้อย ก็คือการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ด้วยครีมทาส้นเท้าแตก หมั่นทาทุกวันก็จะช่วยให้ส้นเท้าเราดีขึ้น นุ่มขึ้น และรอยแตกลดลงได้ วันนี้มินนี่รีวิว จึงขอแนะนำ 10 ครีมทาส้นเท้าแตก ยี่ห้อไหนดี ลดรอยแตก เท้านุ่มชุ่มชื่น เนียนเรียบเพื่อทุกคนกันโดยเฉพาะ แล้วไปเลือกซื้อเลือกใช้กันได้เลยค่ะ 

สาเหตุของ “ส้นเท้าแตก” มีอะไรบ้าง

  • ร่างกายขาดน้ำ: สาเหตุสำคัญทำให้ความชุ่มชื้นของผิวลดลงคือภาวะร่างกายขาดน้ำค่ะ โดยจะส่งผลหลายอย่าง ทั้งความเต็งตึงของผิวหนัง ความเนียนนุ่ม ความแห้งกร้าน 
  • น้ำหนักตัวเยอะหรืออ้วนเกินไป: การที่เรามีน้ำหนักตัวมากก็เป็นอีกหนึ่งสาเหตุซึ่งทำให้มีปัญหาเรื่องส้นเท้าแตก เพราะเท้าจะเป็นส่วนรับน้ำหนักตัวทั้งหมดของเราค่ะ
  • อากาศเย็น: เราจะสังเกตุได้เลยว่าช่วงหน้าหนาว ทั้งหน้าและผิวจะมีความแห้งกร้าน แตก เพราะอากาศที่หนาวเย็น แถมยังมีมาพร้อมกับความแห้งๆ ลมพัดปะทะผิวค่ะ
  • ไม่ใส่รองเท้าหรือใส่รองเท้าพื้นแข็ง: หากเราไม่สวมใส่รองเท้า หรือการที่เท้าของเราได้สัมผัสกับพื้นที่แข็งกระด้างหรือมีความหยาบโดยตรง นั่นก็ทำให้ส้นเท้าของเราเสียดสีกับวัตถุ แถมยังมีน้ำหนักตัวที่กดทับลงมา จนทำให้ส้นเท้าแตกได้ 
  • ใช้สบู่ทำให้ผิวแห้งเกินไป: จะมีสบู่อยู่บางประเภท เมื่อถูและล้างออกแล้วจะนำพาความชุ่มชื้นออกจากผิวไปด้วย สังเกตุได้จากเมื่อล้างด้วยน้ำสะอาดผิวจะแห้งมากๆ ไม่มีความนุ่มลื่น ใครหลายคนอาจคิดว่าเป็นผลลัพธ์ของความสะอาด แต่ไม่ใช่ค่ะ สบู่ที่ดีควรกักเก็บความชุ่มชื้นไว้บนผิวของเราด้วย
  • ไม่ทาครีมบำรุงเท้า: การทาครีมบำรุงเท้าก็เป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว ดังนั้นหากเราไม่เคยทาครีมบำรุงเท้าเลย ความชุ่มชื้นที่หายไปจากปัจจัยต่างๆ ก็ทำให้เรามีปัญหาส้นเท้าแตกได้

ส้นเท้าแตก มีวิธีการบำรุงและฟื้นฟูอย่างไร

  • ใช้สบู่เพิ่มความชุ่มชื้น: การเลือกสบู่ก็เป็นปัจจัยสำคัญที่ทำให้บำรุงส้นเท้าของเราได้ แนะนำง่ายง่ายคือไม่ใช้สบู่ที่มีสารเคมีเข้มข้น และไม่ทำให้ผิวแห้งค่ะ
  • ทาครีมบำรุงส้นเท้า: ควรทาครีมบำรุงส้นเท้าอยู่เป็นประจำ เพื่อกักเก็บความชุ่มชื้นและบำรุง ฟื้นฟู ส่วนที่สึกหรอ นั่นเป็นการป้องกันและแก้ไขที่ถูกวิธี ซึ่งได้ผลลัพธ์ที่ดีอีกด้วย
  • ดื่นน้ำเยอะๆ: การดื่มน้ำให้เพียงพอควรคำนวณจากน้ำหนักตัวของเรา ด้วยสูตร น้ำหนักตัวx2.2x(30/2) = ปริมาณน้ำ 
  • ใส่ถุงเท้านอน: การใส่ถุงเท้านอนก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ช่วยบำรุงเท้าของเราไม่ให้มีความแห้งกร้านและเกิดรอยแตก เพราะช่วยให้เท้าอุ่นแถมยังไม่ต้องสัมผัสกับอากาศเย็นหรือแห้งในตอนกลางคืนอีกด้วย
  • ขัดเท้า: หากเท้าเกิดการแตกลายและมีผิวหนังที่ตายเยอะจนแข็งและแห้งมาก การขัดผิวนั้นก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่ได้ผลลัพธ์ดีเลยค่ะ เพราะการขัดผิวเก่าออก ก็จะทำให้เกิดผิวใหม่ขึ้นมาทดแทน 
  • ใส่รองเท้าหุ้มส้น: การใส่รองเท้าหุ้มส้น เป็นตัวช่วยลดอาการส้นเท้าแตกได้ดียิ่งกว่ารองเท้าแตะหรืออื่นๆ เพราะช่วยปกป้องให้เท้าของเรานั้นไม่ต้องสัมผัสกับพื้นแข็งหรือลมอากาศภายนอก ซึ่งเป็นสาเหตุทำให้มีปัญหาต่างๆค่ะ

วิธีการเลือกซื้อครีมทาส้นเท้าแตก

  • ส่วนประกอบ: เราควรเลือกครีมทาส้นเท้าแตกที่มีส่วนประกอบสำคัญในการบำรุงส้นเท้า และผิวหนัง หากเป็นส่วนประกอบจากธรรมชาติก็ยิ่งดีเลยค่ะ เพราะจะไม่ทำให้เกิดอาการระคายเคือง หรือเกิดอาการแพ้
  • ราคา: ปัจจัยสำคัญในการเลือกครีมทาส้นเท้าแตกอีกหนึ่งวิธีคือราคา หากมีราคาไม่แพงมาก ก็ทำให้ง่ายต่อการตัดสินใจค่ะ
  • ปริมาณ: ปริมาณเป็นตัวบ่งบอกความคุ้มค่าของครีมทาส้นเท้าแตกที่ดีอีกหนึ่งวิธีเลยค่ะ หากมีปริมาณเยอะก็สามารถใช้ได้นาน หรือหากใครอยากจะพกพาไปไหนต่อไหน ก็สามารถเลือกปริมาณหลอดเล็กได้ค่ะ 
  • ลักษณะอาการของส้นเท้า: ก่อนอื่นเราควรมีการประเมินปัญหาของส้นเท้าเราด้วย เพราะครีมบางยี่ห้อมีความเข้นข้นต่างกัน หากมีปัญหาเยอะก็ควรเลือกครีมที่มีความเข้มข้นสูง หรือหากต้องการแค่บำรุงหรือถนอมผิวก็เลือกครีมที่มีความเข้มข้นน้อยลงมา เพื่อป้องกันสารที่ก่อให้เกิดการแพ้ได้ค่ะ

1. Polka Cracked Heel Cream

Polka Cracked Heel Cream ครีมทาส้นเท้าแตก ราคาเบาๆ เนื้อครีมเนียนนุ่ม ไม่เหนียวเหนอะหนะ ทำหน้าที่ป้องกันอาการสูญเสียน้ำแถมยังดูดซับน้ำไว้ใต้ผิวได้เป็นเวลานาน ทำให้ส้นเท้าของเราอ่อนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน แถมยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ เราจึงได้สัมผัสถึงผิวใหม่ของส้นเท้า ทั้งความเรียบเนียน ความขาวใสขึ้น ได้อย่างน่าประทับใจ หากอยากได้ผลลัพธ์ที่ดีขึ้น ผิวแตกแห้งกร้านสมานเร็ว แนะนำให้ทาครีมบำรุงส้นเท้าแตกอยู่เป็นประจำเช้า และเย็น โดยช่วงเย็นก่อนนอนเมื่อทาแล้ว ให้สวมถุงเท้าไว้ด้วย เพื่อคงความชุ่มชื้นให้กับผิวยาวนานตลอดทั้งคืน อีกทั้งครีมยังสามารถทำงานได้อย่างเต็มที่อีกด้วย นอกจากนี้ส่วนผสมของเขายังประกอบไปด้วยสารสกัดต่างๆที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ลดอาการแพ้ เป็นยี่ห้อลำดับต้นๆที่ได้รับความนิยม เพราะมีผลลัพธ์ดี ใช้แล้วลดได้จริง แนะนำเลยค่ะ หากใครกำลังมองหาครีมทาส้นเท้าแตกราคาไม่แพง แต่คุณภาพดี Polka Cracked Heel Cream ตัวนี้ควรมีติดไว้ทาเป็นประจำ แล้วคุณจะต้องติดใจอย่างแน่นอน

ครีมทาส้นเท้าแตก ยี่ห้อไหนดี

คุณสมบัติ
เนื้อครีมเนียนนุ่ม ไม่เหนียวเหนอะหนะ
ป้องกันอาการสูญเสียน้ำและยังดูดซับน้ำไว้ใต้ผิวได้เป็นเวลานาน ทำให้ส้นเท้าของเราอ่อนนุ่ม ไม่แห้งกร้าน
ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง ลดอาการแพ้
ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วออกไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เพิ่มความเรียบเนียน ขาวใสขึ้น

ยี่ห้อPolka
ราคา฿125
ปริมาณ60 กรัม

2. SKIN SOFTENER GIFFARINE

หากคุณกำลังมองหาครีมทาส้นเท้าแตก โดยให้ผลลัพธ์น่าพึงพอใจ SKIN SOFTENER GIFFARINE เป็นคำตอบที่ดีเลยค่ะ เพราะนอกจากลดปัญหาส้นเท้าแตกแล้ว ยังเพิ่มความชุ่มชื้นเป็นพิเศษอีกด้วย ซึ่งทำให้ผิวแห้งกร้านของคุณกลับมานุ่มรื่นน่าสัมผัส เปลี่ยนผิวหมองคล้ำเป็นผิวใหม่อย่างเป็นธรรมชาติได้ใน 7-15 วัน บำรุงได้ทั้งส้นเท้า ตาตุ่ม หัวเข่า รวมไปถึงข้อศอกได้อย่างล้ำลึก เพียงทาอย่างสม่ำเสมอทั้งเช้าและเย็น หรือจะบ่อยครั้งในปริมาณตามต้องการได้เลย ด้วยเนื้อครีมเข้มข้น เต็มไปด้วยสารสำคัญ เพื่อการบำรุงผิวอย่าเต็มประสิทธิภาพ จึงได้ผลลัพธ์ที่ดี ผิวของคุณกลับมามีชีวิตชีวามากยิ่งขึ้น จนต้องหลงไหลและเผยผิวได้อย่างเต็มที่ ใส่รองเท้าสวยๆได้อย่างมั่นใจ ราคาดี คุ้มค่าคุ้มราคา เกินคาดมาก ไม่ว่าใครถ้าต้องการฟื้นฟูส้นเท้า หรือตำแหน่งผิวที่แห้งกร้านในระยะเวลารวดเร็ว แนะนำ ครีมทาส้นเท้าแตกของกิฟฟารีนเลยค่ะ รับรองเลยว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน

SKIN SOFTENER GIFFARINE

คุณสมบัติ
เพิ่มความชุ่มชื้นทำให้ผิวแห้งกร้านของคุณกลับมานุ่มรื่นน่าสัมผัส
เปลี่ยนผิวหมองคล้ำเป็นผิวใหม่อย่างเป็นธรรมชาติได้ใน 7-15 วัน
บำรุงได้ทั้งส้นเท้า ตาตุ่ม หัวเข่า รวมไปถึงข้อศอกได้อย่างล้ำลึก

ยี่ห้อGIFFARINE
ราคา฿139
ปริมาณ85 กรัม

3. DU’IT Foot & Heel Balm

ตัวนี้เป็นบาล์มทาส้นเท้าแตก ให้ผลลัพธ์ที่น่าพึงพอใจเกินคาด ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานมากมาย การันตีด้วยยอดขายที่สูงขึ้นทุกๆเดือน DU’IT Foot & Heel Balm เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ส้นเท้าแตก ขาดความชุ่มชื้น มีคุณสมบัติต้านจุลินทรีย์เพื่อรักษากรณีที่แห้งหยาบกร้านแตกและระคายเคืองมากที่สุดได้รับการพิสูจน์ทางการแพทย์และผ่านการทดสอบทางผิวหนังด้วยสูตร triple action ไม่มีลาโนลินพาราเบนสารเคมีปิโตรเลียมและน้ำหอมเทียม เนื้อบาล์มไม่เหนียวเหนอะหนะ ดูดซึมง่าย ใช้ได้ทุกพื้นผิว แถมยังเหมาะสำหรับผิวบอบบางอีกด้วย นอกจากนี้ยังมี Fast relief ช่วยขจัดแคลลัสและบำรุงผิวที่แห้งแตกให้ดีขึ้น อีกทั้ง AHAs ยังช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าและขจัดเซลล์ผิวที่ตายไปแล้วให้คุณได้สัมผัสกับผิวใหม่ที่เนียนนุ่มมีชีวิตชีวาจนน่าตกใจ โดยไม่ต้องขูดหรือขัดออกเลย มีส่วนประกอบสำคัญและดีมากมาย ไม่ว่าจะเป็น Anti-oxidant และ Rehydration ซึ่งนอกจากจะบำรุง ฟื้นฟูแล้ว ยังเป็นเกาะป้องกันการสูญเสียน้ำไม่ให้ผิวมีปัญหาอีกต่อไป 

DU'IT Foot & Heel Balm

คุณสมบัติ
ช่วยต้านจุลินทรีย์เพื่อรักษากรณีที่แห้งหยาบกร้านแตกและระคายเคือง
ไม่มีลาโนลินพาราเบนสารเคมีปิโตรเลียมและน้ำหอมเทียม
ช่วยขจัดแคลลัสและบำรุงผิวที่แห้งแตกให้ดีขึ้น
บำรุง ฟื้นฟูและเป็นเกาะป้องกันการสูญเสียน้ำให้ผิว
ผ่านการทดสอบทางผิวหนัง ผิวบอบบางใช้ได้

ข้อจำกัด
เหมาะสำหรับผู้ที่มีปัญหาผิวแห้งกร้าน ส้นเท้าแตก ขาดความชุ่มชื้น

ยี่ห้อDU’IT
ราคา฿460
ปริมาณ50 กรัม

4. Shiseido Urea Cream

Shiseido Urea Body Cream ตัวดังจากญี่ปุ่น ตัวนี้สามารถใช้ทาบำรุงได้ทุกสัดส่วน อาทิเช่น มือ ข้อศอก หัวเข่า ปลายนิ้ว และช่วยทำให้คุณสามารถใช้ครีมตัวนี้กับพื้นที่ส้นเท้าที่สามารถแตกง่ายได้อีกด้วย หากรู้สึกว่าจุดไหนมีผิวแห้งมาก แตกกร้าน เพียงแค่ใช้ครีมทาผิวชิเชโด้ยูเรีย ก็ทำให้ทุกปัญหาผิวของคุณหายไป ด้วยเนื้อครีมเข้มข้น อุดมไปด้วยสารสกัดยูเรีย 10% และน้ำมันสวาเลน  ซึ่งมีคุณสมบัติช่วยลดการแห้ง แตก และหยาบกร้านของผิวได้เป็นพิเศษ ซึมซาบเร็ว แถมยังบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ จึงช่วยบำรุงผิวให้เนียนนุ่มชุ่มชื้น อีกทั้งยังป้องกันการแตกลายได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทุกครั้งเมื่อลูบไล้เนื้อครีมให้ทั่วบริเวณที่ต้องการ จึงเป็นการฟื้นฟู และป้องกันผิวให้มีความแข็งแรง เพื่อไม่ให้ผิวของเรากลับไปแห้งกร้านและแตกลายเช่นเดิม นอกจากนี้ราคาไม่แพงหาซื้อได้ง่ายตามร้านสะดวกซื้อทั่วไป จึงไม่ทำให้คุณลำบากเลยค่ะ มีให้เลือก 2 ขนาดด้วยกัน โดยแยกออกเป็นแบบหลอด และแบบกระปุก เป็นอีกหนึ่งไอเท็มที่คนดูแลผิวต้องมีเลยค่ะ

Shiseido Urea Cream

คุณสมบัติ
สามารถใช้ทาบำรุงได้ทุกสัดส่วน เช่น มือ ข้อศอก หัวเข่า ปลายนิ้ว
ทำจากปลาสดปราศจากกลิ่นคาว รสกลมกล่อม ทำอาหารอร่อย
ช่วยลดการแห้ง แตก และหยาบกร้านของผิว
ซึมซาบเร็ว บางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ

ยี่ห้อShiseido
ราคา฿350
ปริมาณ100 กรัม

5. Siriraj Soft Care Plus

ครีมทาส้นเท้าแตก Siriraj Soft Care Plus ผลิตภัณฑ์จากโรงพยาบาลศิริราช มีความปลอดภัย ไว้ใจได้ แถมได้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพึงพอใจ ซึ่งที่นี่ได้ผลิตครีมหลายรูปแบบ ไม่ว่าจะบำรุงผิวหน้า หรือร่างกายส่วนอื่นๆ และรวมไปถึงผลิตภัณฑ์ป้องกันความแห้งมากตัวนี้ด้วย โดยมีส่วนประกอบสำคัญไม่ว่าจะเป็น Urea 9%, วิตามิน E และ Jojoba Oil เพื่อการบำรุงและฟื้นฟูอย่างล้ำลึก สำหรับผิวที่แห้งกร้าน และแตกลาย ด้วยวิธีการเพิ่มความชุ่มชื้น เติมน้ำให้กับผิวอย่างเต็มที่ เมื่อทาเป็นประจำจะพบว่าผิวบริเวณนั้นมีความเปล่งปลั่ง เรียบเนียน และนุ่มลื่นขึ้น ปัญหาส้นเท้าแตกลดเลือนลงอย่างเห็นได้ชัด แถมตัวนี้ยังสามารถใช้ทาในบริเวณอื่นที่มีปัญหาเช่นเดียวกันได้อีกด้วย วิธีการใช้ง่ายๆให้ทาในบริเวณที่ต้องการเพียงวันละ 2-3 ครั้ง เท่านี้คุณก็จะได้ผิวอย่างต้องการเลยค่ะ หาใครอยากมีส้นเท้าเรียบเนียน ห่างไกลปัญหาแตก แนะนำยี่ห้อนี้เลยค่ะ ควรมีติดตัวไว้ใช้ แล้วคุณจะต้องถูกใจอย่างแน่นอน

Siriraj Soft Care Plus

คุณสมบัติ
บำรุงและฟื้นฟูอย่างล้ำลึก สำหรับผิวที่แห้งกร้าน และแตกลาย
เพิ่มความชุ่มชื้น เติมน้ำให้กับผิว
เพิ่มความเปล่งปลั่ง เรียบเนียน และนุ่มลื่นขึ้นให้กับผิว
สามารถใช้ทาในบริเวณอื่นที่มีปัญหาเช่นเดียวกันได้

ยี่ห้อSiriraj
ราคา฿69
ปริมาณ30 กรัม

6. YOKO CRACKED HEEL Q10 CREAM

Yoko Cracked Heet Q10 Cream ผลิตภัณฑ์บำรุงส้นเท้า เนื้อครีมบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึบซาบเข้าสู่ผิวได้อย่างง่ายดาย มีส่วนผสมจากธรรมชาติของ น้ำผึ้ง, peppermint oil และ โคเอ็นไซม์คิวเท็น ช่วยลดความหยาบกร้าน คืนความชุ่มชื่น ผิวดูอ่อนนุ่ม เรียบเนียนขึ้นอย่างรวดเร็ว เพียงแค่ใช้ทาเป็นประจำแบบต่อเนื่อง แนะนำให้ทำความสะอาดเท้าก่อนทาทุกครั้ง จากนั้นบีบครีมในปริมาณน้อยเพื่อทาให้ทั่วบริเวณส้นเท้า และเน้นไปยังตำแหน่งที่มีปัญหา หลอดนึงสามารถใช้ได้นานเลยค่ะ เพราะแค่บีบเพียงเล็กน้อยก็สามารถบำรุงส้นเท้าแตกได้อย่างเต็มที่เลย ถ้าใครกำลังมีปัญหาดังกล่าวอยู่ แนะนำให้ลองตัวนี้เลยค่ะ กลิ่นหอมกำลังดี แถมราคายังไม่แพงอีกด้วย มีไว้ใช้ถือว่าคุ้มค่าคุ้มราคาเป็นอย่างยิ่ง แล้วปัญหาส้นเท้าแตกของคุณจะหายไป และได้รับความชุ่มชื้นกลับมาแทน 

YOKO CRACKED HEEL Q10 CREAM

คุณสมบัติ
เนื้อครีมบางเบา ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึบซาบเข้าสู่ผิวได้เร็ว
ช่วยลดความหยาบกร้าน คืนความชุ่มชื่น ผิวดูอ่อนนุ่ม เรียบเนียนขึ้น
ให้โปรตีนจากปลาทะเลสูง
มีส่วนผสมจากธรรมชาติ

ยี่ห้อYOKO
ราคา฿109
ปริมาณ50 กรัม

7. Oriental Princess Foot & Cracked Heel Therapy

อีกหนึ่งผลิตภัณฑ์จากโอเรนทอล Oriental Princess Foot & Cracked Heel Therapy ครีมถนอมส้นเท้า เพื่อคงความชุ่มชื้นและเรียบเนียนของผิวได้อย่างยาวนาน เสริมสร้างความแข็งแรงไม่ทำให้ผิวแห้งแตกลายได้ง่าย มาในปริมาณที่เหมาะสมหลอดละ 50 กรัมซึ่งสามารถใช้ได้นาน เนื้อครีมเข้มข้นให้สัมผัสที่ดีในเวลาทาเพราะเกลียง่าย ดูดซึมรวดเร็ว ผิวจึงได้สัมผัสกับเนื้อครีมอย่างเต็มที่ ด้วยคุณสมบัติของสารสกัดจากธรรมชาติ ไม่ว่าจะเป็น Peppermint oil ด้วยความเย็นสบาย จึงทำให้คุณรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย, Lavender oil ทำให้คุณได้ดูดดมกลิ่มหอมจากธรรมชาติอย่างละมุนละไม, Aloe leaf extract ว่านหางจระเข้ช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นความร้อน และแสงแดด สุดท้ายคือ Phytocomplex โปรตีนรวมซึ่งช่วยให้ผิวของคุณแลดูสุขภาพดีอยู่เสมอ มาบำรุงส้นเท้าของเราให้ไม่แตก แห้งกร้านกัน ด้วยผลิตภัณฑ์คุณภาพอย่าง Oriental Princess Foot & Cracked Heel Therapy ด้วยกันนะคะ

Oriental Princess Foot & Cracked Heel Therapy

คุณสมบัติ
ว่านหางจระเข้ช่วยป้องกันผิวจากมลภาวะต่างๆ
มีโปรตีนรวมซึ่งช่วยให้ผิวของคุณแลดูสุขภาพดีอยู่เสมอ
มีสารสกัดจากธรรมชาติ ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น ผ่อนคลาย
คงความชุ่มชื้นและเรียบเนียนของผิวได้อย่างยาวนาน

ยี่ห้อOriental Princess
ราคา฿85
ปริมาณ50 กรัม

8. Ellgy Plus Cracked Heel Cream

แอลจี้ พลัส แคร็ก ฮีล ครีมบำรุงส้นเท้า มีให้เลือกทั้งหมด 2 ขนาดทั้ง 25 กรัม สามารถพกพาได้ง่ายเหมาะที่จะไปกับคุณทุกที่ และ 50 กรัม หลอดสุดคุ้มให้คุณสามารถใช้งานไปอีกนาน ตัวนี้เป็นสูตรมอยส์เจอร์ไรเซอร์เข้มข้น สำหรับผิวเท้า เหมาะสำหรับส้นเท้าที่แห้ง แตก หรือขาดความชุ่มชื้น ด้วยแซคคาร์ไรด์ ไอโซเมอเรท ซึ่งช่วยให้ผิวหนังสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ยาวนาน และสารสกัดจากพอร์ทูลาคา มีกรดไขมันธรรมชาติ ทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงของไขมันบนผิวหนังชั้นนอก เพื่อคงความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ นั่นจึงทำให้ผิวของคุณเรียบเนียนตลอดทั้งวัน แถมยังรถล่องแตกของผิวหนังได้อย่างเป็นที่น่าพอใจอีกด้วย โดยสารสกัดจากธรรมชาติทั้งหมดนี้ จึงไม่ทำให้เนื้อครีมมีกลิ่นฉุน แต่กลับได้กลิ่นอ่อนๆในรูปแบบของความสดชื่น และผ่อนคลายเป็นที่สุด เพียงแค่ทาหรือนวดครีมบริเวณส้นเท้าหรือตรงจุดที่มีปัญหาวันละสองถึงสามครั้งก็จะทำให้คุณได้พบกับผิวใหม่ที่น่าหลงใหลเลยค่ะ

Ellgy Plus Cracked Heel Cream

คุณสมบัติ
มีกรดไขมันธรรมชาติ ทำหน้าที่เพิ่มความแข็งแรงของไขมันบนผิวหนังชั้นนอก
ทำให้ผิวของคุณเรียบเนียนตลอดทั้งวัน
ช่วยให้ผิวหนังสามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้ยาวนาน

ข้อจำกัด
เหมาะสำหรับส้นเท้าที่แห้ง แตก หรือขาดความชุ่มชื้น

ยี่ห้อEllgy Plus
ราคา฿149
ปริมาณ25 กรัม

9. Scholl Cracked Heel

ครีมทาส้นเท้าแตกคุณภาพจากประเทศเยอรมัน Scholl ชื่อที่ทุกคนคุ้นหู แถมยังเป็นผลิตภัณฑ์ที่ได้รับความนิยมจากคนไทยจำนวนไม่น้อย ด้วยผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ จึงทำให้มีคนแนะนำและรีวิวกันอย่างล้นหลาม โดยส่วนมากแล้วจะนำเข้าจากต่างประเทศ ซึ่งสามารถเลือกซื้อได้ทางออนไลน์ซะส่วนใหญ่ ตัวนี้ปราศจากน้ำหอม แถมยังเป็นแบบ hypo allergenic หากใครมีปัญหาผิวบอบบาง ก็สามารถใช้ได้อย่างไร้กังวลเลยค่ะ เนื้อครีมเป็นมอยเจอไรเซอร์สูตรเข้มข้น ซึ่งสามารถซึมซับเข้าสู่ผิวได้อย่างง่ายดาย สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานถึง 3 ปี ครีมทาส้นเท้าแตกสกอร์ ช่วยฟื้นฟูผิวที่มีความแห้งกร้าน และช่วยสมานร่องแตกของคุณ ให้เรียบเนียน และชุมชื่นยิ่งขึ้น ซึ่งหากใช้ติดต่อกันเป็นประจำก็เห็นผลได้อย่างรวดเร็ว หากคุณกำลังมีปัญหาเหล่านี้อยู่ อย่ารอช้าเลือกผลิตภัณฑ์ดูแลส้นเท้าสกอร์ไว้ใช้ แล้วคุณจะสามารถก้าวเดินได้อย่างมั่นใจเลยทีเดียว แนะนำเลยค่ะรับรองว่าคุณจะไม่ผิดหวังอย่างแน่นอน 

ครีมทาส้นเท้าแตก Scholl

คุณสมบัติ
ปราศจากน้ำหอม
ผิวบอบบาง ก็สามารถใช้ได้
สามารถเก็บไว้ใช้ได้นานถึง 3 ปี
สามารถซึมซับเข้าสู่ผิวได้อย่างง่ายดาย
ช่วยฟื้นฟูผิวที่มีความแห้งกร้าน และช่วยสมานร่องแตก ให้เรียบเนียน และชุมชื่นยิ่งขึ้น

ยี่ห้อScholl
ราคา
ปริมาณ

10. Himalaya Foot Care Cream

และสุดท้ายสำหรับครีมบำรุงส้นเท้าแตกที่การันตีผลลัพธ์ภายใน 7 วัน Himalaya Foot Care Cream คือสิ่งที่คุณกำลังตามหาอยู่ ด้วยสารสกัดสำคัญหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็น Sal tree มีคุณสมบัติช่วยลดการอักเสบของผิวซึ่ง เราจะเห็นได้จากส่วนผสมในยาขี้ผึ้ง ที่ถูกนำมาใช้กับผู้ป่วยโรคผิวหนัง และยาเกี่ยวกับหู มีส่วนผสมจากน้ำผึ้ง ซึ่งช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้นได้อย่างมีประสิทธิภาพ สารสกัดจากขมิ้น เป็นตัวช่วยสำคัญที่ทำให้เท้าของคุณนุ่มลื่นขึ้นอย่างเห็นได้ชัดจนน่าสัมผัส Fenugreek เราจะพบมากในยาอายุรเวท ซึ่งเป็นตัวให้ความชุ่มชื้นกับผิวที่แห้งกล้ามอีกหนึ่งตัวเรียกได้ว่าบำรุง x2 ในหนึ่งหลอดทีเดียว และสารสกัดจากขิง ที่จะเป็นตัวกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยปกป้องผิวของคุณจากความหนาวเย็น ซึ่งเป็นเหตุให้ส้นเท้าแตกอีกด้วย เพียงแค่คุณล้างเท้าด้วยน้ำอุ่นและเช็ดให้แห้ง จากนั้นใช้ผลิตภัณฑ์ตัวนี้ทาเป็นประจำทั้งเช้าและเย็น ก็จะได้ผิวอย่างที่ต้องการเลยค่ะ

Himalaya Foot Care Cream

คุณสมบัติ
ช่วยลดการอักเสบของผิว
มีส่วนผสมจากน้ำผึ้ง ซึ่งช่วยให้ผิวคงความชุ่มชื้น
มีสารสกัดจากขมิ้น ที่ทำให้เท้านุ่มมลื่นน่าสัมผัส
มีสารสกัดจากขิง ที่จะเป็นตัวกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ช่วยปกป้องผิวของคุณจากความหนาวเ

ยี่ห้อHimalaya
ราคา฿109
ปริมาณ50 กรัม