รีวิว 10 แท็บเล็ต ยี่ห้อไหนดี [2024] สเปคดี จอใหญ่ ราคาไม่แพง

แท็บเล็ต อุปกรณ์ไอทีที่นิยมใช้กันอย่างมากในยุคดิจิทัลมากขึ้น ด้วยฟีเจอร์อะไรหลายอย่างที่เอื้อให้ใช้งานคล่องตัวขึ้นเพราะด้วยหน้าจอที่มีขนาดใหญ่กว่ามือถือ แต่พกพาง่าย สะดวก น้ำหนักเบาใช้งานได้คล่องตัว สามารถใช้งานได้โดยการสัมผัส หรือมีปากกาในบางรุ่น สามารถใส่ซิมเล่นอินเทอร์เน็ตได้ โดยไม่ต้องรอ Wi-Fi สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชั่นได้อย่างมากมาย ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ IOS, Android และ Windows รวมไปถึงฟังก์ชั่นการใช้งาน ไม่ว่าจะเป็น ดูภาพยนตร์ เล่นเกมส์ เล่นโซเชียล และการนำเสนองานต่างๆ ก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ไม่แพ้คอมพิวเตอร์หรือโน็ตบุ๊กเลยค่ะ แต่การที่จะเลือกซื้อเพื่อให้ใช้งานที่มีประสิทธิภาพที่ดีและตอบโจทย์การใช้งาน บางทีก็เป็นเรื่องยาก มินนี่รีวิวขอแนะนำ 10 แท็บเล็ต ยี่ห้อไหนดี สเปคดี จอใหญ่ ราคาไม่แพง ให้คุณตัดสินใจง่าย และเลือกรุ่นที่เข้ากับไลฟ์สไตล์ของคุณ

เปรียบเทียบ “แท็บเล็ต” กับ สมาร์ทโฟน และ คอมพิวเตอร์

• แท็บเล็ต: แท็บเล็ตเป็นนวัตกรรมที่นำระบบปฏิบัติการจากสมาร์ทโฟนมาใส่ใน อุปกรณ์ที่มีขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้น เพื่อการใช้งานที่หลากหลาย และอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานได้มีความสะดวกสะบายมากยิ่งขึ้น แต่ไม่สามารถใช้โทรเข้า-ออกได้ โดยเปรียบเสมือนโน็ตบุ๊คขนาดย่อมๆเลยค่ะ สามารถใช้งานได้ด้วยการทัสกรีน อีกทั้งในปัจจุบันยังพัฒนาให้สามารถเชื่อมต่อเพื่อใช้งานกับคีย์บอร์ดและเม้าท์ผ่านทาง Bluetooth ได้อีกด้วย
• สมาร์ทโฟน: สมาร์ทโฟน เป็นอุปกรณ์สื่อสารชนิดหนึ่งที่สามารถเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตและใช้งานในรูปแบบต่างๆผ่านแอปพลิเคชั่นได้ สามารถโทรเข้า-ออกได้ แต่จะมีหน้าจอขนาดเล็กกว่าแท็บเล็ตค่ะ
• คอมพิวเตอร์: คอมพิวเตอร์เราจะทราบกันดีในรูปแบบของการใช้ทำงาน เรียนออนไลน์ อีกทั้งยังสามารถเล่นอินเทอร์เน็ตได้ แต่คอมพิวเตอร์หรือโน็ตบุ๊คจะสามารถใช้งานได้เพียงแค่ระบบปฏิบัติการ Windown เท่านั้นค่ะ ในยุคปัจจุบันสามารถลงโปรแกรมได้เพิ่มมากขึ้นแต่ยังไม่สามารถดาว์นโหลดแอปพลิเคชั่นได้เทียบเท่าสมาร์ทโฟนและแท็บเล็ตค่ะ

• สรุป

ทั้งสมาร์ทโฟน แท็บเล็ต และคอมพิวเตอร์หรือโน็ตบุ๊ค ต่างเป็นอุปกรณ์ไอทีที่อำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้งานทั้งนั้น แต่หากจะมีสิ่งที่แตกต่างกันบ้าง หากเป็นการใช้งานเฉพาะอยู่กับที่ไม่ค่อยได้เคลื่อนย้ายไปไหน แนะนำให้เลือกซื้อเป็นคอมพิวเตอร์หรือโน็ตบุ๊ค หรือหากเราไม่ได้มีความจำเป็นต้องทำงานตลอดเวลา มีแค่สมาร์ทโฟนก็เพียงพอ แต่หากเราเป็นคนหนึ่งที่ชอบการใช้งานที่หลากหลาย ทำงานบ้าง เรียนออนไลน์บ้าง หรือแม้กระทั่งต้องการชมภาพยตร์ต่างๆที่สบายตาขึ้น แนะนำเป็น “แท็บเล็ต” เลยค่ะ

ข้อดีจากการใช้ แท็บเล็ต

แท็บเล็ต เป็นอุปกรณ์ที่ทำให้เราใช้ชีวิตได้อย่างสะดวกมากขึ้น ไม่จำเป็นต้องแบกคอมหรือโน็ตบุ๊คหนักๆให้เป็นภาระ สามารถใช้งานได้ทุกที่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงาน เรียนออนไลน์ หรือดูคอนเท้นต์ต่างๆ สบายตามากกว่าการจ้องโทรศัพท์ ทำให้เราไม่เสียสุขภาพสายตาค่ะ 

วิธีการเลือก แท็บเล็ต มีปัจจัยอะไรบ้าง

• ฟังก์ชั่นการใช้งาน: แท็บเล็ตต้องมีฟังก์ชั่นการใช้งานที่หลากหลายและไม่ยุ่งยาก เพราะเป็นอุปกรณ์ที่จะช่วยเพิ่มความสะดวกสบายให้กับผู้ใช้งาน เช่น การเชื่อมต่ออุปกรณ์อื่นๆได้ง่าย การเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต รวมไปถึงการเข้าถึงแอปพลิเคชั่นได้ง่ายค่ะ
• ขนาด/ ความจำหรือพื้นที่ในการใช้งาน: ขนาดและความจำ เป็นปัจจัยที่ผู้ใช้งานคำนึงถึงเมื่อต้องการเลือกซื้อค่ะ เพราะความถนัดหรือความคล่องแคล่วในการใช้งานไม่เท่ากัน ดังนั้นเราจึงต้องเลือกขนาดที่พอเหมาะกับตัวเอง รวมไปถึงความจำหรือพื้นที่ของการใช้งานด้วยค่ะ ก็ควรเลือกขนาดพื้นที่ที่พอเหมาะในการใช้งานค่ะ เพราะหากเราเลือกความจำที่มากแต่ไม่สามารถใช้งานมากถึงขนาดนั้นก็จะส่งผลต่อราคาที่สูงโดยไม่จำเป็นอีกด้วย
• ดีไซน์: ดีไซน์เป็นสิ่งที่เรามองเห็นเป็นอย่างแรกค่ะ เช่น ความโค้งเว้าของตัวเครื่อง การจัดวางตำแหน่งกล้อง ความบางเฉียบ หยิบจับง่าย สิ่งต่างๆพวกนี้เราสามารถเลือกได้เองตามความชอบ และไลฟ์สไตล์เลยค่ะ
• อุปกรณ์เสริม: อุปกรณ์เสริมต่างๆนอกจากตัวเครื่องก็เป็นสิ่งที่เพิ่มความสนใจให้แก่ผู้ใช้งานเป็นอย่างมากค่ะ เช่น มีปากกา, เคสกันรอย, หูฟัง หรืออื่นๆอีกมากมาย หากรุ่นไหนมีอุปกรณ์เสริมเยอะ ก็รู้สึกได้ถึงความคุ้มค่าคุ้มราคาค่ะ
• แบรนด์: และแน่นอนว่าการเลือกซื้อแท็บเล็ตนั้น ผู้ใช้งานจะมองหาแบรนด์เป็นลำดับต้นๆเลยก็ว่าได้ เพราะแบรนด์เป็นตัวบ่งบอกถึงความมั่นใจที่ผู้ใช้งานมีให้ต่อตัวสินค้า หากเป็นสินค้าในแบรนด์ที่อยากจับจองอยู่ก็เพิ่มการตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
• ราคา: ยิ่งแท็บเล็ตมีราคาถูกก็ทำให้ผู้ใช้งานตัดสินใจได้ง่ายขึ้น แต่หากราคาถูกมากเกินไปเราก็อาจจะได้แท็บเล็ตที่คุณภาพไม่ดีก็ได้ ดังนั้นควรดูปัจจัยอื่นๆร่วมไปด้วยค่ะ
• บริการหลังการขาย: บริการหลังการขายที่หมายถึงคือ การรับประกันตัวสินค้า เพราะแท็บเล็ตเป็นอุปกรณ์ไอทีประเภทหนึ่ง ซึ่งอาจจะเกิดการขัดข้องได้ง่าย หากมีการรับประกันที่ยาวนานและมีศูนย์บริการซ่อม ก็จะทำให้เรามั่นใจและสบายใจที่จะการใช้งานโดยไม่ต้องกังวลเรื่องค่าใช้จ่ายของการซ่อมแซมค่ะ
• ระบบปฏิบัติการ: หลักๆแล้วจะมีระบบปฏิบัติการอยู่ 3 ระบบ คือ IOS, Android และ Windows ซึ่งแต่ละระบบก็อาจจะมีความแตกต่างกันออกไป เราก็สามารถเลือกได้ตามความถนัดและการใช้งานได้เลยค่ะ
• ความจุแบตเตอรี่: เป็นอีกหัวข้อที่เราต้องคำนึงถึงเลยก็ว่าได้ เพราะความจุแบตเตอรี่เป็นตัวบ่งบอกถึงระยะเวลาในการใช้งาน ว่าเราจะใช้งานต่อวันได้นานแค่ไหน กี่ชั่วโมง หากแท็บเล็ตมีความจุแบตเตอรี่เยอะก็สามารถใช้งานได้ยาวนานค่ะ

1. Samsung Galaxy Tab S8 5G

มาเริ่มต้นกันที่ แท็บเล็ตจากแบรนด์ซัมซุง กันบ้างค่ะกับ Samsung Galaxy Tap S8 5G เป็นแท็บเล็ตที่มีขนาดหน้าจอใหญ่ถึง 11 นิ้ว สามารถแบ่งหน้าจอได้ด้วย Flexible Multi-window ได้สูงสุด 3 จอ 4 รูปแบบ และยังเพิ่มจอแนวนอนอีก 2 แบบ เป็นความพิเศษที่มอบให้กับผู้ให้งานสามารถทำงานหรือเล่นพร้อมกันได้อย่างเหมาะสม ตัวเครื่องยังบางไม่หนักมากพกพาสะดวก จอแสดงผลแบบ LTPS TFT มีความละเอียดมากถึง 2560×1600P มีหน่วยประมวลผล Qualcomm Snapdragon 8 Gen 1 Octa Core สามารถใช้งานได้อย่างรวดเร็วตอบสนองทุกสัมผัส อีกทั้งยังใช้ GPU Adreno 730 มีหน่วยความจำ RAM 8GB/ ROM 128GB และเพิ่มความจำภายนอกได้อีกถึง 1TB ไม่ว่าจะใช้งานหนักแค่ไหนก็ไม่ทำให้เครื่องอืดหรือช้าเลย  มาพร้อมกับ S-Pen รุ่นใหม่ ทำให้คุณสร้างสรรค์ทุกผลงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ เขียนลื่น ไม่ดีเลย์ ด้วยความหน่วงต่ำเพียง 6.2 มิลลิวินาที เสมือนใช้ปากกาจริงๆเขียน ไม่จำเป้นต้องเชื่อมต่อ ไม่ต้องชาร์จก็สามารถใช้งานได้ทันที มีฟังก์ชั่น Air Action ที่สามารถกดถ่ายภาพ หรือควบคุมการนำเสนองานต่างๆได้ แต่ตัวนี้จำเป็นต้องเชื่อมต่อกับ Bluetooth และชาร์จแบตก่อนค่ะ คุณสมบัติกล้องหลังหลักอยู่ที่ 13MP+6MP ส่วนกล้องหน้า 12MP ใช้ระบบปฏิบัติการ Android สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้ตามต้องการ ความจุแบตเตอรี่ 8,000 mAh สามารถใช้งานได้นานไม่ต้องชาร์จบ่อย ตัวเครื่องรับประกัน 1 ปี โดยสามารถติดต่อได้ที่ศูนย์บริการทั่วประเทศ หากใครกำลังลังเลใจ ในการเลือกซื้อแท็บเล็ตอยู่ รับรองได้รุ่นนี้แล้วจะไม่ผิดหวังค่ะ

ยี่ห้อ	Samsung
ราคา	฿38,900
ขนาดหน้าจอ	12.4 นิ้ว

2. iPad gen 10 64GB Wi-Fi + Cellular

Apple เป็นแบรนด์ซึ่งได้รับความนิยมสูงสุดในหลายประเทศเลยก็ว่าได้ สำหรับตัวนี้คือ Ipad gen 10 64GB Wi-Fi + Cellular เป็นแท็บเล็ตดีไซน์หรูหราตามสไตล์ Apple หน้าจอขนาด 10.9 นิ้ว ด้วยจอภาพ Liquid Retina ละมุนสายตา พร้อมแสดงผลแบบ Treu Tone มีชิป A14 Bionic อีกทั้ง CPU เป็นแบบ 6-Core และ GPU แบบ 4-core ทำให้เราสามารถใช้งานได้ลื่นไหล ทัชสกรีนไม่มีสะดุด โดดเด่นด้วยกล้องหลัง Wide ความละเอียด 12MP และกล้องหน้า Ultra-wide ความละเอียด 12MP ภาพสวยคมชัดไม่แพ้สมาร์ทโฟนบางรุ่นเลยค่ะ เพิ่มความปลอดภัยด้วย Touch ID เพื่อยืนยันตัวตน และแน่นอนว่าระบปฏิบัติการต้องเป็น IOS โดยเริ่มต้นด้วย IOS 16 ทำให้แท็บเล็ตรุ่นนี้มีความสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเชื่อมต่อไปยังอุปกรณ์ไดๆก็ทำได้ง่ายดาย และด้วยนวัตกรรมที่ถูกพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จึงทำให้แท็บเล็ตเครื่องนี้สามารถใช้งานร่วมกับ Apple Pencil และ Keyboard Folio ได้อีกด้วย ตัวเครื่องรับประกันโดย Apple ให้นานถึง 1 ปี สามารถติดต่อได้ง่ายผ่านช่องทางออนไลน์หรือศูนย์บริการ Apple icare ได้เลยค่ะ หากใครมองหาแท็บเล็ตคุณภาพดีสักเครื่อง แนะนำ Ipad gen 10 รุ่นใหม่นี้เลยค่ะ

ยี่ห้อ	Apple
ราคา	฿23,900
ขนาดหน้าจอ	10.9 นิ้ว

3. Huawei MatePad 11

สำหรับ Huawei MatePad 11 เป็นแท็บเล็ตรุ่นใหม่ล่าสุดของ Huawei มีขนาดหน้าจอ 10.95 นิ้ว และบางเพียง 7.25 มิลลิเมตร อีกทั้งยังมีน้ำหนักเบา 485 กรัม ทำให้เราสามารถพกพาได้สะดวก ไม่หนักหรือเกะกะ จอแสดงผลมีสีมากถึง 16.7 ล้านสี ความละเอียดระดับ 2560×1600P คมชัด ไม่ทำร้ายสายตาเลย มีให้เลือก 2 สี คือ Matepad Isle Blue และ Matepad Matte Gray โดดเด่น ดีไซน์สวย น่าหลงไหล CPU ชนิด Octa-Core ชิป Qualcomm Snapdragon 865 ทำให้เครื่องสามารถทำงานได้รวดเร็ว ตอบสนองทุกการใช้งาน  เชื่อมต่อ Wi-Fi และ Buletooth ได้ง่าย เป็นระบบปฏิบัติการที่คิดค้นและใช้งานเฉพาะ Huawei เท่านั้น คือ HarmonyOS 2 สามารถใช้งานได้ไม่แพ้ IOS หรือ Android เลยค่ะ มีแบตเตอรี่ชนิด Lithium polymer ความจุมากถึง 7,500 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน รุ่นนี้สามารถใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่าน Wi-Fi ได้เท่านั้น ไม่สามารถใส่ซิมได้นะคะ มี RAM 6 GB และ ROM 128 GB นอกจากนี้ยังสามารถเพิ่มความจำภายนอกได้มากถึง 1TB โดย SD card ใช้งานได้อย่างจุใจ ไม่ต้องกังวลเรื่องความจำเต็มอีกต่อไป ไม่ว่าจะด้วยระบบภาพหรือเสียงก็มีคุณภาพ ทำให้เราสามารถเพลิดเพลินไปกับการรับชมคอนเท้นต่างๆได้อย่างสบายใจ กล้องหลังมีความระเอียดมากถึง 13MP (F1.8 แบบ Auto Focus) และกล้องหน้า 8 MP (F1.8 แบบ Auto Focus เช่ยเดียวกัน) รองรับ HUAWEI M-Pencil และ HUAWEI Smart Magnetic Keyboard เพื่อเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน แถมยังรองรับ USB Type-C ด้วย ถือว่าเป็นแท็บเล็ตที่มีฟังก์ชั่นการทำงานครบ ใช้งานได้หลากหลาย แนะนำเลยค่ะ

ยี่ห้อ	Huawei
ราคา	฿14,990
ขนาดหน้าจอ	10.95 นิ้ว

4. OPPO Pad Air

เรารู้จัก OPPO กันดีในรูปแบบสมาร์ทโฟน แต่ในปัจจุบัน OPPO ได้ออกแบบและผลิตแท็บเล็ตที่เพิ่มการใช้งานได้มากกว่าสมาร์ทโฟน OPPO Pad Air แท็บเล็ตดีไซน์เรียบง่าย เบาบาง ราคาไม่แพง แต่กลับมีประสิทธิภาพมากมาย มีฟังก์ชั่นการทำงาน แบบครบครัน หน้าจอขนาด 10.36 นิ้ว ความคมชัดระดับ 2K แต่ถนอมสายตาด้วยการตัดแสงสีฟ้า มี RAM4GB ที่สามารถขยายเพิ่มได้อีก 3GB ด้วยชิปประมวลผล Snapdragon 680 8-Core 6nm ทำงานได้เร็วแรงไม่สะดุด บางเฉียบเพียง 6.94 มิลลิเมตร อีกทั้งยังน้ำหนักเบาเพียง 440 กรัม ทำให้ไม่เป็นอุปสรรคที่จะพกพาไปในที่ต่างๆ แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ถึง 7,100 mAh 18 วัตต์ สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 15 ชั่วโมง เพิ่มความพิเศษด้วยลำโพง Dolby Atmos Symmetrical Quad มีถึง 4 ตัว จะทำให้คุณเพลิดเพลินพร้อมกันทั้งภาพและเสียง เพิ่มความสะดวกในการใช้งานให้ง่ายขึ้นด้วยการเปิดใช้งาน 2 หน้าจอพร้อมกัน อีกทั้งยังสามารถเชื่อมต่อได้ง่าย ทั้งแบบมีสายและไร้สาย ใช้งานได้อย่างคล่องแคล่ว อีกทั้งยังใช้ระบบ ColorOS ทำให้คุณปรับแต่งทุกอย่างได้ดั่งใจ มีระบบ Multitasking สุดอัจฉริยะ เป็นการเชื่อมต่อหลายหน้าจอและควบคุมการป้อนข้อมูลทั้ง 2 หน้าจอพร้อมกันได้ค่ะ เป็นแท็บเล็ตที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานที่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ ช่วยให้ผู้ใช้งานสะดวกมากยิ่งขึ้น เป็นอีกหนึ่งแท็บเล็ตราคาไม่แพง คุณภาพดี แนะนำเลยค่ะ

ยี่ห้อ	OPPO
ราคา	฿9,999
ขนาดหน้าจอ	10.36 นิ้ว

5. iPad Pro 11 นิ้ว 128GB Wi-Fi + Cellular

และสำหรับรุ่นนี้เป็นแท็บเล็ตจาก Apple อีกหนึ่งรุ่นที่ได้รับความนิยมมากเช่นกัน การันตีโดยยอดขายที่สูงไม่แพ้รุ่นอื่น Ipad Pro 11 นิ้ว 128GB Wi-Fi + Cellular เป็นรุ่นที่ Apple พัฒนาเทคโนโลยีใหม่เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดีไซน์สวย หรูหรา การวางตำแหน่งกล้องหลังได้อย่างเหมาะสม 2 เลนส์ ดูดีมีสไตล์ หน้าจอขนาด 11 นิ้วขึ้นไป ไม่ว่าจะเป็นการเรียนออนไลน์ พรีเซนงาน ก็สามารถใช้งานได้ง่าย สะดวกเป็นอย่างมาก จอภาพแบบ Liquid Retina คมชัดละเอียดทุกมุมมอง มาพร้อมกับชิป M2 เร็วแรง ทำงานได้อย่างไร้ที่ติ ด้วยการเชื่อมต่อแบบไร้สายได้มาตฐานและมีคุณภาพ ทำให้เราใช้งานได้อย่างลื่นไหล ไม่เกะกะ และสามารถเชื่อมต่อได้อย่างรวดเร็วในพริบตา อีกทั้งแบตเตอรี่สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน ไม่มีสะดุด ไม่ว่าจะใช้งานในรูปแบบไหน สามารถทำได้อย่างง่ายดาย ด้วยระบบปฏิบัติการ IOS ที่สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้หลากหลาย และทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ พิเศษสุดกับกล้องหลังและหน้าที่มีความละเอียดถึง 12MP สามารถทำงานร่วมกับอุปกรณ์เสริมเช่น Apple Pencil เสมือนวาดภาพหรือเขียนลงบนกระดาษ และ Magic Keyboard ที่ทำงานได้อย่างไร้ที่ติ ทำให้เรามีความสะดวกสบายมากขึ้นค่ะ เป็นอีกหนึ่งแท็บเล็ตที่มีประสิทธิภาพ ฟังก์ชั่นการใช้งานครบ ตอบสนองทุกความต้องการ พกพาไปไหนต่อไหนได้สะดวก หากคุณกำลังมองหาแท็บเล็ตที่เพิ่มคุณค่าให้กับตัวคุณได้อย่างมีสไตล์แนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ

ยี่ห้อ	Apple
ราคา	฿38,900
ขนาดหน้าจอ	11 นิ้ว

6. iPad mini 6th generation 64GB Wi-Fi + Cellular

iPad mini 6 สามารถใช้งานได้ทั้ง Wi-Fi และ Cellular มาพร้อมกับดีไซน์เรียบง่าย สวยหรู น่าจับจองเป็นเจ้าของ หน้าจอขนาด 8.3 นิ้ว จอภาพ Liquid Retina สะดุดทุกสายตาที่จับจ้อง เป็น iPad ที่มีชิป A15 Bionic พร้อมกับ Neural Engineสามารถทำงานได้อย่างทรงพลัง ไวต่อการใช้งานทุกรูปแบบ เร็วแรงทันใจ ไม่ว่าจะเป็นทั้งการใช้งานเบาหรือหนัก เช่น รับชมวิดีโอ เล่นเกมส์ จดบันทึก หรือเรียนออนไลน์ ก็สามารถทำงานได้อย่างไม่สะดุด ด้วยขนาดที่พอเหมาะ น้ำหนักเบาเพียง 297 กรัม จึงพกพาได้สะดวก ใช้งานได้คล่องแคล่ว ไม่จำเป็นต้องแบกใส่กระเป๋าเป้หนักอีกต่อไป กล้องหลังและกล้องหน้า Ultra-wide ที่มีความละเอียดถึง 12MP ดีไซน์ให้กล้องหน้าจัดไว้ตรงกลางตามสไตล์ Apple มีลำโพงสเตอริโอแนวนอนทำให้ทุกการรับชมมีคุณภาพทั้งภาพและเสียง ชิปที่ใช้เป็นแบบ Nano-SIM แบตเตอรี่ขนาดใหญ่ ชาร์จด้วย USB-C 20 วัตต์ สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 9 ชั่วโมง เชื่อมต่อง่ายกับอุปกรณ์ต่างๆ ช่องทางการเชื่อมต่อแบบ USB-C และช่องทางไร้สายอย่าง Wi-Fi และ Buletooth สามารถใช้งานกับ Apple Pencil ได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจดโน็ต วาดภาพ ตกแต่งรูปต่างๆ เป็นต้น มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการยืนยันตัวตนผ่าน Touch ID รุ่นนี้รับประกันโดย Apple ยาวนานถึง 1 ปี เป็นหนึ่งในแท็บเล็ตคุณภาพ ที่ทุกคนต่างอยากจับจองเป็นเจ้าของ ไม่ว่าจะเป็นฟังก์ชั่นการทำงาน การเชื่อมต่อ ระบบปฏิบัติการ หรือประสิทธิภาพของระบบต่างๆ รุ่นนี้ก็เป็นอีกรุ่นที่แนะนำค่ะ

ยี่ห้อ	Apple
ราคา	฿25,900
ขนาดหน้าจอ	8.3 นิ้ว

7. Xiaomi Pad 5

แท็บเล็ต Xiaomi Pad 5 เป็นแท็บเล็ตที่กำลังมาแรงและได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วยราคาที่ไม่แพง แต่ฟังก์ชั่นการใช้งานครบครัน มาพร้อมกับจอแสดงผลแบบ WQHD+ 120Hz มีความละเอียดมากถึง 1600x2560P สัมผัสได้อย่างลื่นไหล รวดเร็วต่อทุกการสัมผัส กับชิป Qualcomm® Snapdragon™ 860 หน้าจอใหญ่ขนาด 11 นิ้ว บางเฉียบ สวย เรียบง่าย สะกดทุกสายตา แบตเตอรี่ขนาด 8,720 mAh ไม่ต้องกังวลเรื่องชาร์จแบตบ่อยๆอีกต่อไป สามารถชาร์จแบตแบบไร้สายด้วยระบบแม่เหล็กได้ด้วย และชาร์จไวภายใน 18 นาที รับชมเสียงได้เต็มที่กับลำโพงสเตอริโอ 4 ตัว ความละเอียดของจอภาพที่มีมากกว่า 1,000 ล้านสี รับชมได้อย่างสบายตา ด้วยแสงสีฟ้าที่ต่ำ ทำให้ไม่ทำลายสายตา มีพื้นที่จัดเก็บข้อมูล RAM 6GB และ ROM 256GB เบาบางด้วยน้ำหนักเพียง 511 กรัม คุณสมบัติโดดเด่นด้วยการถ่ายภาพที่มีความคมชัด โดยกล้องหลัง 13MP และกล้องหน้า 8MP มีระบบปฏิบัติการ MIUI มาพร้อมกับ App Drawe สามารถเข้าถึงแอปพลิเคชั่นทั้งหมดได้อย่างรวดเร็วในที่เดียว สามารถเปิดแอปพลิเคชั่นพร้อมกันได้ในเวลาเดียวกัน อีกทั้งยังสามารถใช้งานได้หลากหลายด้วยการเพิ่มอุปกรณ์ Xiaomi Smart Pen ที่เป็นมากกว่าปากกาปกติ นอกจากจะจดโน็ตต่างๆได้แล้ว ยังควบคุมหน้าจอได้แทนการทัสกรีนอีกด้วย ทำให้เราได้เพลิดเพลินกับทุกการใช้งานเลยค่ะ เป็นอีกหนึ่งรุ่นที่แนะนำ เพราะมีราคาถูก แต่เต็มเปี่ยมไปด้วยประสิทธิภาพ

ยี่ห้อ	Xiaomi
ราคา	฿12,990
ขนาดหน้าจอ	11 นิ้ว

8. Lenovo Tab P11 Plus

สำหรับ Lonovo Tab P11 Plus เป็น แท็ตเล็ตดีไซน์สวย มีเสน่ห์ ขนาดหน้าจอ 11 นิ้ว ความคมชัดระดับ 2K สามารถรับชมและใช้งานได้แบบสบายตา มองเห็นทุกรายละเอียด ความจำตัวเครื่อง RAM 6GB และ ROM 128GB อีกทั้งสามารถเพิ่มความจำภายนอกได้มากถึง 1TB ชิป MediaTek Helio G90T ทำให้เครื่องมีความเร็วแรง ใช้ระบบปฏิบัติการ Android สามารถดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้มากมาย เพลิดเพลินทุกสัมผัสและการใช้งาน กล้องหลังมีความละเอียดถึง 13MP ส่วนกล้องหน้า 8MP ขนาดของแบตเตอรี่มีความจุมากถึง 7,700 mAh สามารถใช้งานได้ยาวนานถึง 15 ชั่วโมง ชาร์จไวใช้เวลาน้อยกว่า 3 ชั่วโมงเท่านั้น ถึงความจุของแบตจะเยอะแต่ตัวเครื่องน้ำหนักเบาเพียงแค่ 490 กรัมค่ะ เชื่อมต่อและชาร์จแบตผ่านช่อง USB-C ไม่ว่าจะใช้งานเบาๆ หรือสตรีมมิ่งที่หนักหน่วงก็สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ  ระบบเสียงแบบ First-class คุณภาพดี ทำให้คุณดื่มด่ำกับทุกการรับชมคลิปวิดีโอ หรือภาพยนตร์ เป็นแท็บเล็ตที่มีความหน่วงน้อยมากด้วย Qualcomm® Snapdragon™ Octa-Core 662 พร้อมความถี่สูงสุด 2.3GHz ทำให้เราใช้งานได้อย่างราบรื่น และด้วย Google Play ที่สามารถทำให้คุณดาวน์โหลดแอปพลิเคชั่นได้มากมาย ใช้งานได้ตามความต้องการ เป็นแท็บเล็ตที่สามารถใช้งานได้ครบครัน ไม่แพ้ยี่ห้ออื่นเลยค่ะ แถมราคายังไม่แพง สามารถเป็นเจ้าของได้ง่าย เชื่อมต่อและควบคุมการใช้งานผ่านคีย์บอร์ดและปากกาได้ หากคุณกำลังมองหาแท็บเล็ตที่มีฟังก์ชั่นการใช้งานง่าย ทำได้หลายอย่างมีประสิทธิภาพ แนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ

ยี่ห้อ	Lenovo
ราคา	฿14,390
ขนาดหน้าจอ	11 นิ้ว

9. Microsoft Surface Go 3

อีกหนึ่งรุ่นที่อยากแนะนำคือ Microsoft Surface Go 3 ดีไซน์มีสเนห์ เรียบหรู พกพาไปได้ทุกที่ สะดวกสบาย ขนาด 10.5 นิ้ว หน้าจอแสดงผลแบบ PixelSense™ มีความละเอียดมากถึง 1920×1280P สบายตา ไม่แสบและปวดตาเลยค่ะ แบตเตอรี่สามารถใช้งานได้นานถึง 11 ชั่วโมง หน่วยความจำ 4GB หรือ 8GB LPDDR3 มาพร้อมกับความจำตัวเครื่อง 128GB การเชื่อมต่อผ่านพอร์ต USB-C 1 ช่อง, พอร์ต Surface Connect 1 ช่อง และมีแจ็คหูฟังขนาด 3.5 มิลลิเมตรอีก 1 ช่อง สามารถเชื่อมต่อได้ง่ายรวมไปถึงการเชื่อมต่อแบบไร้สายก็เช่นกัน มีระบบรักษาความปลอดภัยด้วยการเข้าสู่ระบบด้วยใบหน้าผ่านฟีเจอร์ Windows Hello กล้องหลังมีความละเอียด 8MP โฟกัสได้อัตโนมัติ อีกทั้งยังสามารถถ่ายวิดีโอให้มีความละเอียดในระดับ HD หรือ 1080P เลยค่ะ ส่วนกล้องหน้าก็มีความละเอียดมากถึง 5MP อัดวิดีโอได้ด้วยความละเอียดเดียวกัน มาพร้อมกับไมโครโฟน Studio Mics คู่ ลำโพงสเตอริโอ 2W ระบบเสียง Dolby® Audio™ ทำให้รับชมจากระยะไกลได้ดียิ่งขึ้น ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows 11 และยังสามารถทดลองใช้งาน Microsoft 365 Family ฟรีอีก 1 เดือน ตัวเครื่องรับประกัน 6 เดือน และประกันฮาร์ดแวร์อีก 1 ปีเลย น้ำหนักเบาเพียง 544 กรัม สามารถเชื่อมต่อกับคีย์บอร์ดและใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้เราสามารถใช้ทำงานนอกสถานที่ได้สะดวก หากคุณกำลังมองหาแท็บเล็ตที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows เพื่อการทำงานได้เทียบเท่ากับคอมพิวเตอร์ รุ่นนี้ตอบโจทย์ทุกการใช้งานค่ะ

ยี่ห้อ	Microsoft
ราคา	฿28,610
ขนาดหน้าจอ	10.5 นิ้ว

10. Samsung Tab A8 LTE

Samsung Tab A8 LTE เป็นแท็บเล็ตอีกรุ่นของแบรนด์ซัมซุง ที่ได้รับความนิยมไม่แพ้รุ่นอื่นๆ เนื่องจากมีราคาไม่แพง ไม่ถึงหมื่นเลยค่ะ แต่สามารถใช้งานได้ครบครัน โดยสามารถใช้งานต่างๆโดยซิมได้ ด้วยชนิด Nano-SIM ขนาดหน้าจอ 10.5 นิ้ว หน้าจอ TFT 60Hz อัตราส่วน 80.1% ทำให้ทำงานได้อย่างลื่นไหล ราบรื่น ไม่มีสะดุด ความจุ RAM 4GB และความจำของเครื่อง 64GB อีกทั้งยังสามารถเพิ่มหน่วยความจำภายนอกได้มากถึง 1TB กล้องหลังมีความละเอียดมากถึง 8MP Auto Focus ส่วนกล้องหลังละเอียดถึง 5MP สามารถบันทึกวิดีโอที่มีความคมชัดมากในระดับ FHD (1920x1080P) มีความเร็วการเชื่อมต่อ HSPA 42.2/5.76 Mbps ความจุแบตเตอรี่มากถึง 7,040 mAh รองรับการชาร์จเร็ว 15W สามารถใช้งานได้ยาวนานตลอดทั้งวัน น้ำหนักเบาเพียง 508 กรัม ไม่หนักกระเป๋า พกพาได้สะดวก เชื่อมต่อด้วยระบบไร้สาย และ USB-C, USB 2.0, และแจ็คหูฟัง 3.5 มิลลิเมตร ทำให้เราใช้งานได้อย่างไร้ที่ติ ด้วยลำโพง Dolby Atmos® 4 ตัว โปรเซสเซอร์แบบ Octa-Core ทำงานได้อย่างรวดเร็ว สามารถรับชม Samsung TV Plus  ได้ทุกที่ทุกเวลาผ่านเครื่องนี้เพื่อทำให้เราเพลิดเพลินไปกับทุกสื่อเช่น ข่าว, กีฬา, ภาพยนตร์ และคอนเทนต์ต่างๆ นอกจากนี้ยังสามารถใช้งาน Youtube premium ได้นาน 2 เดือนโดยไม่มีค่าใช้จ่ายใดๆ มี Screen Recorder ทำให้เราสามารถบันทึกเรื่องราวและเหตุการณ์สำคัญได้ค่ะ หากใครกำลังมองหาแท็บเล็ตราคาไม่แพง ใช้งานได้ทุกความต้องการ แนะนำรุ่นนี้เลยค่ะ

ยี่ห้อ	Samsung
ราคา	฿8,990
ขนาดหน้าจอ	10.5 นิ้ว