รีวิว 10 คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี [2024] ใช้ดี แข็งแรง ดีไซน์สวย ได้มาตรฐาน

คีย์บอร์ด หรือแป้นพิมพ์นั้น มีความจำเป็นอย่างยิ่งกับการทำงานคอมพิวเตอร์ เพราะสะดวกกับการใช้งาน แต่เป็นคีย์บอร์ดแบบมีสาย เหมาะกับการใช้งานอยู่บ้าน หรือที่ทำงานเท่านั้น ไม่เหมาะแก่การพกพาไปทำงานนอกสถานที่ แต่สำหรับในปัจจุบันนี้มีคีย์บอร์ดไร้สายเป็นไอเท็มใหม่ ที่ออกแบบมาเพื่อให้ใช้งานได้สะดวกมากขึ้น ไม่มีสายมาเกะกะระหว่างใช้งาน พกพาไปได้ทุกที่ และสามารถใช้กับ iPad หรือ Tablet ได้ โดยการเชื่อมต่อ บลูทูธ ทำให้เราสามารถทำงาน เล่นเกม ดูหนัง ฟังเพลง ได้ตามต้องการ คีย์บอร์ดไร้สาย ได้รับการยอมรับ และนิยมใช้กันมากขึ้น แต่คีย์บอร์ดไร้สาย มีหลายยี่ห้อมากที่ขายตามท้องตลาด ทั้งรูปแบบ ดีไซน์ ก็แตกต่างกัน สำหรับบางคนอาจเลือกไม่ถูก ไม่รู้จะเลือกยี่ห้อไหนดี วันนี้มินนี่มี 10 คีย์บอร์ดไร้สาย ยี่ห้อไหนดี ใช้งานง่าย แข็งแรง ดีไซน์สวย ได้มาตรฐาน พร้อมคำแนะนำในการเลือกซื้อมาฝากค่ะ

ประเภทคีย์บอร์ด

ก่อนที่เราจะเลือกซื้อคีย์บอร์ด มาดูกันก่อนค่ะว่ามีกี่ประเภท

1. ประเภทปุ่มยาง
   คีย์บอร์ดประเภทนี้เป็นคีย์บอร์ดที่พบได้มากสุดในตลาด เพราะมีต้นทุนในการผลิตต่ำ และผลิตได้ง่ายกว่า โดยจะมีปุ่ม เล็กๆ ใต้ปุ่มแต่ละปุ่มเปิดปิดวงจรไฟฟ้าในตัว โดยยางจะทำหน้าที่เป็นสปิงรองรับแเมื่อกดปุ่มคีย์บอร์ดลงไป แต่คีย์บอร์ดประเภทนี้อายุการใช้งานต่ำ และปุ่มแป้นพิมพ์มีสัมผัสที่ไม่สบายนิ้ว แข็ง
2. ประเภทกลไก
   คีย์บอร์ดกลไก หรือ Mechanical Keyboard เป็นประเภทที่เราคุ้นเคยกันดี เพราะใช้สำหรับเล่นเกม เกมเมอร์ส่วนใหญ่มักจะเลือกคีย์บอร์ดประเภทนี้เพราะว่าใช้สนุก พิมพ์สบาย มีแรงต้านทำให้ไม่เผลอกดได้ง่ายๆ เมื่อเวลากดคอมโบในเกมก็จะมีเสียงคลิกๆ ซึ่งทำให้สนุกเพิ่มขึ้นในการเล่น
3. ประเภทกึ่งกลไก
   คีย์บอร์ดประเภทกึ่งกลไก หรือ Semi-Mechanical Keyboard ผสมของคีย์บอร์ดปุ่มยางกับคีย์บอร์ดกลไก โดยมีการทำงานคล้ายกับคีย์บอร์ดปุ่มยางคือ ภายในจะมีปุ่มยาง คอยรับแรงกดเพื่อเชื่อมวงจรใต้คีย์บอร์ด เมื่อครบวงจรแล้วจะเด้งตัวกลับขึ้นมา คีย์บอร์ดประเภทนี้จะให้ความรู้สึกว่าเรากำลังใช้คีย์บอร์ดกลไกอยู่ค่ะ แต่ประเภทนี้มีราคาถูก และยังสามารถถอดคีย์แคปเพื่อปรับแต่งปุ่มกดได้เหมือนคีย์บอร์ดกลไก แต่ปุ่มยางอาจจะเสื่อมสภาพไว และมีอายุการใช้งานน้อย
4. ประเภทขนาดเต็ม
   คีย์บอร์ดขนาดเต็มเป็นคีย์บอร์ดที่พบเจอได้ทั่วไปตามท้องตลาด โดยจะมีปุ่มทั้งหมด 104 ปุ่มครบทั้งปุ่มอักขระ ปุ่มตัวเลข ปุ่มลูกศร และปุ่มฟังก์ชัน เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
5. ประเภทไร้ปุ่มตัวเลข
   คีย์บอร์ดประเภทนี้ไม่มีปุ่มตัวเลขแยกออกมา มีเล็กกว่าคีย์บอร์ดประเภทอื่น โดยถูกเรียกอีกชื่อว่า 80% Keyboard หลายๆ คนชอบคีย์บอร์ดประเภทนี้ รวมถึงเกมเมอร์ มีขนาดเล็ก ทำให้มีพื้นที่วางเมาส์ได้มากขึ้นค่ะ
6. ประเภทกะทัดรัด
   คีย์บอร์ดประเภทนี้มีปุ่มครบ แต่มีการจัดวางปุ่มให้ติดกันมากขึ้น ขนาดเล็ก กะทัดรัด โดยจะถูกเรียกอีกชื่อว่า 75% Keyboard หรือ 60% Keyboard คีย์บอร์ดประเภทนี้ พกพาสะดวก ทำงานได้ง่ายขึ้น พิมพ์งานได้ไว และสนุก

ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อ

การพิจารณา ก่อนซื้อเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่มีความสำคัญอย่างมากในการซื้อคีย์บอร์ด เช่น

1. ฟังก์ชั่นการเชื่อมต่อ
   โดยจะมีการเชื่อมต่อหลายแบบเช่น
   • การเชื่อมต่อแบบมีสายลักษณะของหัวที่ใช้ในการเชื่อมต่อเป็นวงกลม เหมาะกับการใช้งานแบบทั่วๆ ไป แต่เมื่อเสียบหัวของคีย์บอร์ดเข้ากับคอมพิวเตอร์แล้ว ต้องทำการRestart คอมพิวเตอร์ก่อนถึงจะใช้งานได้
   • การเชื่อมต่อด้วย USB การเชื่อมต่อแบบนี้สะดวกกว่าการเชื่อมต่อแบบมีสาย เพราะเมื่อทำการเสียบสาย USB เข้ากับคอมพิวเตอร์แล้วสามารถใช้งานได้ทันที
   • การเชื่อมต่อแบบไม่ใช้สาย เช่น Bluetooth และ Wireless การเชื่อมต่อแบบนี้ใช้งานได้สะดวก เพราะไม่มีสายเกะกะ ให้รำคาญและยังสามารถยกคีย์บอร์ดไปทำงานได้ทุกที่ ตามต้องการ
2. ให้เหมาะกับการใช้งาน
   การเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งานก็มีส่วนสำคัญ เช่น หากคุณชอบเล่นเกม ควรเลือกคีย์บอร์ดปุ่มกดที่มีความทนทาน มีปุ่มกดพิเศษ หรือ สำหรับใช้งานทั่วไปควรเลือกซื้อคีย์บอร์ดแบบมาตรฐานใช้งานได้ง่ายๆ มีปุ่มกดครบ ไม่มีปุ่มกดพิเศษ เป็นต้น
3. รูปแบบ ดีไซน์
   คีย์บอร์ดส่วนใหญ่หน้าตาจะเหมือนๆ กัน แต่ดีไซน์ และการจัดวางปุ่มมีความแตกต่างกันในแต่ละรุ่น รวมไปถึงปุ่มกดด้วย เช่น บางรุ่นมีการรวมปุ่มฟังก์ชั่นให้ใช้ร่วมกันกับปุ่มตัวอักษร บางรุ่นเล็กกะทัดรัด เหมาะสำหรับการพกพา หรือไว้สำหรับเชื่อมต่อกับ iPad และ Tablet บางรุ่นมีปุ่มพิเศษสำหรับเล่นเกมโดยเฉพาะ เป็นต้น
4. การรับประกันสินค้า
   การบริการหลังการขาย หรือการรับประกันสินค้าหลังจากที่เราซื้อสินค้าไปแล้ว เพื่อให้เราได้แจ้งปัญหา หรือสอบถามเกี่ยวกับสินค้าที่เราซื้อไป หากสินค้าชำรุด พัง เสียหาย แล้วยังอยู่ในการรับประกัน ก็สามารถนำไปซ่อมหรือเปลี่ยนคืนกลับทางร้านได้ค่ะ
   

1. คีย์บอร์ดไร้สาย Apple รุ่น Magic Keyboard

Apple รุ่น Magic Keyboard มาพร้อมกับ Touch ID และปุ่มตัวเลข มอบประสบการณ์ในการพิมพ์ที่สะดวกสบาย และแม่นยำจนรู้สึกได้ มีปุ่มควบคุมสำหรับการทำงานกับเอกสารเพื่อการเลื่อนอย่างรวดเร็ว ปุ่มลูกศรขนาดมาตรฐานไว้สำหรับเล่นเกม ส่วนปุ่มตัวเลขไว้สำหรับสเปรดชีตและแอพพลิเคชั่นด้านการเงินอีกด้วย Apple สามารถเชื่อมต่อไร้สายได้ง่ายเพียงผ่าน Bluetooth ตัวแบตเตอรี่เป็นแบบชนิดชาร์จซ้ำได้ หรือชาร์จครั้งเดียวก็สามารถใช้งานคีย์บอร์ดได้นานถึงประมาณหนึ่งเดือน หรืออาจจะมากกว่าขึ้นอยู่กับการใช้งาน นอกจากนี้ยังจับคู่กับ Mac ของคุณโดยอัตโนมัติเพื่อให้คุณเริ่มใช้งานได้ทันที อีกทั้งยังมีสาย USB-C เป็น Lightning แบบถักที่ให้คุณจับคู่ และชาร์จโดยการเชื่อมต่อกับพอร์ต USB-C บน Mac ค่ะ สำหรับคีย์บอร์ด Apple รุ่น Magic นี้ ดีไซน์สวยทันสมัย ฟังก์ชั่นการทำงานดี แนะนำเลยค่ะ

ยี่ห้อ	Apple
ราคา	฿3,890
รุ่น	Magic Keyboard

2. Keychron รุ่น K5 Pro

คีย์บอร์ดระบบคู่แบบไร้สายสองโหมด Keychron รุ่น K5 Pro คีย์บอร์ดไร้สายระบบย้อนแสงยอดนิยม มาพร้อมฟีเจอร์การใช้งานแบบใหม่ และการออกแบบภายนอกให้เข้ากับการใช้งานตามหลักการยศาสตร์มากขึ้น เพื่อเพิ่มความโดดเด่นให้กับคีย์บอร์ด ให้สัมผัสที่ยอดเยี่ยมเมื่อพิมพ์ ไปจนถึง Stabilizing ทำให้คุณพิมพ์งานได้ต่อเนื่องไม่มีสะดุด หรือเมื่อยนิ้ว ขนาดเล็ก บางเบา กะทัดรัดเหมาะกับการพกพา รุ่นนี้มาพร้อมคีย์แคป double-shot PBT อันเป็นเอกลักษณ์ของ Keychron ที่ผลิตจากวัสดุ PBT ที่ทนทานและแสงไฟไม่ลอดผ่าน และป้องกันการขึ้นเงาเมื่อใช้งานเป็นเวลานาน Keychron รุ่นนี้เชื่อมต่อกับ Device ได้หลากหลาย OS ไม่ว่าจะเป็นระบบ iOS / Android / PC / Mac ไปจนถึง Linux โดยเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 3 เครื่องผ่าน Bluetooth และสามารถสลับระหว่างอุปกรณ์เหล่านั้นได้อย่างง่ายดาย ด้วยชิปเซต Broadcom Bluetooth 5.1 ล่าสุด คีย์บอร์ดรุ่นนี้มีปุ่มลัด และปุ่มลูกศร กรอบด้านล่างเอียงทำให้ พิมพ์ได้สบายยิ่งขึ้นแม้ไม่มีพื้นที่วางมือ ยังมีโหมดต่อสายพร้อมการเชื่อมต่อ USB Type-C ได้ด้วย นอกจากนั้นคีย์บอร์ดยังรองรับ QMK/VIA เพื่อความเป็นไปได้ที่ไม่จำกัด ชิปประหยัดพลังงานตัวใหม่ ที่ทรงพลัง พร้อมหน่วยความจำขนาด 128K ช่วยให้การปรับแต่งยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพกว่าเดิมทนทานต่อการใช้งานของแป้นพิมพ์ ด้วยค่ะ

ยี่ห้อ	Keychron
ราคา	฿4,990
รุ่น	K5 Pro

3. Xiaomi รุ่น MIIIW Bluetooth Dual Mode Keyboard 104 Keys

Xiaomi รุ่น MIIIW Bluetooth Dual คีย์บอร์ด ประเภทยางควบคุมไร้สาย ผ่าน Bluetooth 2.4GHz ได้ในระยะ 10 ม. หรือน้อยกว่านั้น มีปุ่มเป็นวงกลมพร้อมการออกแบบตัวอักษรสำหรับการแกะสลักด้วยเรเดียม ยืดหยุ่นเรียบง่าย มีปุ่มทั้งหมด 104 ปุ่มดีไซน์ทันสมัย สวยงาม มีมุม 6 องศาตามหลักสรีระศาสตร์เพื่อบรรเทาความเมื่อยล้าของนิ้ว เชื่อมต่อได้กับ Windows / Mac / Android / iOS นอกจากนี้ยังเชื่อมต่อกับ คอมพิวเตอร์ Laptop กับ Tablet ได้ด้วย และยังมีปุ่มสลับระหว่าง PC กับ Mac ตัวสวิตช์เร็วเฉพาะสำหรับปุ่มระบบ Windows และ MacOS ทำให้ใช้งานง่ายขึ้น คีย์บอร์ดรุ่นนี้ทำจากวัสดุ ABS กับ อลูมิเนียมอัลลอยด์ และขดลวดพลาสติกอ่อน ทนทาน ได้มาตรฐาน ประเภทแบตเตอรี่: แบตเตอรี่ AAA x 2 นอกจากนี้ยังมีรีโมทคอนโทรล เพื่อการใช้งานที่ง่าย และสะดวกขึ้น ถือว่าXiaomi รุ่น MIIIW Bluetooth Dual นี้ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานได้อย่างดี สีสวย และทนทาน แนะนำค่ะ

ยี่ห้อ	Xiaomi
ราคา	฿1,490
รุ่น	MIIIW Bluetooth Dual

4. Logitech รุ่น POP Keys Wireless Mechanical Keyboard

คีย์บอร์ดไร้สาย POP Keys จากแบรนด์ Logitech รูปแบบปุ่มทรงกลมเว้าลงเหมาะกับปลายนิ้วมือ เพื่อสัมผัสที่นุ่มนวลขณะพิมพ์ มีปุ่มครบขนาดกะทัดรัด เพิ่มพื้นที่ในการวางเมาส์ได้ใกล้กว่าเดิม ใช้งานได้กับ Windows / macOS / Chrome OS / Android / หรือ iPadOS และซอฟต์แวร์ปัจจุบันที่รองรับใน Windows และ macOS สามารถเชื่อมต่ออุปกรณ์ได้ 3 ตัวพร้อมกัน โดยใช้ปุ่ม Easy Switch และสลับการพิมพ์ไปมาได้ด้วยการแตะครั้งเดียว เชื่อมต่อกับคอมพิวเตอร์ แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์ ได้ มีปุ่มลัด FN 12 ปุ่มใหม่ช่วยให้คุณสนิปหน้าจอ เปิดการแปลงเสียงเป็นข้อความได้ ให้สัมผัสการพิมพ์ที่สนุกสนานด้วยคีย์แมกคานิคอลสไตล์เครื่องพิมพ์ดีด พร้อมมอบความรู้สึกความเด้งดึ๋งขณะพรมนิ้วไปตามปุ่ม และฟังเสียงคลิก มาพร้อมปุ่มอีโมจิ สลับเปลี่ยนได้ 8 ปุ่มให้คุณได้ผสมผสานให้เข้ากับอารมณ์ของคุณ และตัวแบตเตอรี่ยังมีอายุการใช้งานได้นานถึง 3 ปี ขึ้นอยู่กับการใช้งานด้วยค่ะ

ยี่ห้อ	Logitech
ราคา	฿3,590
รุ่น	POP Keys

5. IWACHI รุ่น IK-68

IWACHI คีย์บอร์ดไร้สาย รุ่น IK-68 แบบ Mechanical Keyboard Blue-switch  ได้รับออกแบบปุ่มตามสรีระนิ้ว รูปทรงโค้งมน ได้มาตรฐาน พร้อมมอบสัมผัสที่นุ่มนวลเมื่อใช้งาน มาพร้อมปุ่ม Blue-switch ไฟ RGB RGB 19โหมด ปรับเพิ่ม ลดความสว่าง ปรับความเร็วแสงไฟได้ รองรับการเชื่อมต่อ USB2.0 / Wireless 2.4G / Bluetooth5.0 / Bluetooth3.0 และยังสามารถรองรับการเชื่อมต่อจากคอมพิวเตอร์ / แท็บเล็ต / โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์อื่นที่สามารถเชื่อมต่อได้ WACHI รุ่นนี้ถอดเปลี่ยน Key cap ได้ตามต้องการ มีการออกแบบแสงไฟทะลุผ่านตัวหนังสือ ด้านล่าง คีย์บอร์ดมีขาตั้งปรับความสูงได้ 2 ระดับ และยางรองกันลื่น เพื่อยึดให้คีย์บอร์ดไม่ขยับขณะกำลังพิมพ์ สำหรับคนไหนกำลังมองหาคีย์บอร์ดไร้สาย ใช้งานดี ดีไซน์น่ารัก แนะนำ IWACHI รุ่น IK-68 ตัวนี้เลยค่ะ

ยี่ห้อ	IWACHI
ราคา	฿1,390
รุ่น	IK-68

6. Royal Kludge รุ่น RK987

Mechanical Keyboard รุ่น RK987 แป้นพิมพ์ที่ตอบสนองฉับไวและมีเสถียรคุณภาพสูงปุ่มกดทำงานต่อเนื่อง ผลิตจากวัสดุ PBT มีความทนทานต่อการสึกหรอ แป้นพิมพ์มีขารองรับแบบพับเก็บได้มีซิลิโคนแบบนิ่มเพื่อให้ความรู้สึกดีเมื่อสัมผัส อินเทอร์เฟซสายคีย์บอร์ดเป็น USB รุ่นล่าสุด มีไฟพื้นหลัง LED สีขาว ตัวปุ่มกด สลับสีสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความเท่ มาพร้อมปุ่มกด 87 ปุ่ม รองรับการเชื่อมต่อโหมดคู่แบบมีสาย Bluetooth และ USB เชื่อมต่อได้ถึง 3 อุปกรณ์พร้อมกันโดยใช้บลูทูธ การใช้ปุ่มกด PBT แบบหล่อสองชั้น หนาประมาณ 1.5 มม. ทนทาน และป้องกันการสึกหรอ มีโหมดการแสดงแสงพื้นหลัง 8 แบบสำหรับตัวเลือก กด Fn+ScrLK เพื่อเปลี่ยนเป็นแบตเตอรี่ Built-in 1850mAแบตเตอรี่ เข้ากันได้กับ Windows – iOS – Android และใช้กับคอมพิวเตอร์เดสก์ท็อป แล็ปท็อป แท็บเล็ต หรือโทรศัพท์มือถือได้อีกด้วย รองรับ NKRO ในโหมดใช้สาย และโหมดไร้สาย คีย์บอร์ดไร้สาย รุ่นนี้หากไม่มีการใช้งาน 1 นาที ไฟแบ็คไลท์จะปิดโดยอัตโนมัติ หรือ ไม่มีการใช้งาน 5 นาที จะเข้าสู่โหมดสแตนด์บาย และหากไม่มีการใช้งาน 10 นาที จะเข้าสู่โหมดสลีปลึก คุณสามารถกดปุ่มใดก็ได้เพื่อปลุกแป้นพิมพ์ให้กลับมาใช้งานค่ะ

ยี่ห้อ	Royal Kludge
ราคา	฿1,890
รุ่น	RK987

7. Microsoft รุ่น Designer Compact Keyboard

คีย์บอร์ดไร้สาย Microsoft รุ่น Designer Compact รุ่นนี้มาพร้อมแป้นพิมพ์ ไทย/อังกฤษ ดีไซน์กะทัดรัดทันสมัย พกพาไปได้ทุกที่ สามารถเชื่อมต่อ Bluetooth Low Energy 5.0 ความถี่ 2.4 GHz ได้ค่ะ Microsoft รุ่นนี้ เชื่อมต่อกับอุปกรณ์ได้สูงสุด 3 เครื่อง และสามารถการสลับใช้งานระหว่างเครื่องได้ในระยะการใช้งาน 10 เมตร ในพื้นที่โล่ง และระยะ 5 เมตร ในพื้นที่สำนักงาน รุ่นนี้มาพร้อม Emoticon key ช่วยให้เข้าถึงอีโมจิ สัญลักษณ์ และอื่น ๆ ได้อย่างรวดเร็ว แป้นพิมพ์มุมต่ำช่วยให้ตำแหน่งเมาส์อยู่ใกล้ และจับสบายมือมากขึ้น ปุ่ม Screen snip key ช่วยให้คัดลอก วาง และส่งได้อย่างรวดเร็ว มี OS Microsoft Windows 10 / 8.1 แต่อุปกรณ์ต้องรองรับ Bluetooth 4.0 หรือสูงกว่าค่ะ ถือว่าเป็นคีย์บอร์ดไร้สายที่น่าใช้ พกพาสะดวก ไม่แพ้แบรนด์อื่นเลยค่ะ

ยี่ห้อ	Microsoft
ราคา	฿2,290
รุ่น	Designer Compact

8. Razer รุ่น BlackWidow V3 Mini HyperSpeed Gaming Keyboard

Razer รุ่น Blackwidow V3 TKL คีย์บอร์ดไร้สายสำหรับเกมเมอร์โดยเฉพาะ รุ่นนี้ออกแบบโดยผู้ผลิตเกมมิ่งเกียร์ที่มีชื่อเสียงโด่งดังไปทั่วโลก ด้วยดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์ รวมไปถึงฟีเจอร์ในการใช้งานที่หลากหลาย คีย์บอร์ดรุ่นนี้มาในรูปแบบ TKL แถบเลขขวามือจะถูกตัดออกไปทำให้ตัวคีย์บอร์ดมีขนาดเล็กลง กะทัดรัด ทำให้สามารถเลื่อนเมาส์ได้ถนัดมือมากขึ้น มาพร้อมสวิตช์ Razer Green Mechanical รูปแบบการกด Tactile ให้เสียงในการกดแบบ Clicky มาพร้อมกับไฟ Chroma RGB จำนวน 16.8 ล้านสีเต็มรูปแบบ รองรับเกมต่างๆ มากมาย โดยสามารถปรับการตั้งค่าเพิ่มเติมของคีย์บอร์ดได้ผ่านทางซอฟต์แวร์ ทั้งการตั้งค่าแสงไฟ หรือโปรไฟล์ของผู้ใช้งาน มีจุดรีเซตเพื่อความแม่นยำ และเพิ่มประสิทธิภาพในการเล่นเกมให้ดีขึ้น มีสวิตช์กลไก RAZER สีเหลือง สวิตช์เชิงเส้นแบบเงียบ ทำให้การกดแป้นพิมพ์ราบรื่นไม่มีการกระแทกที่สัมผัสได้ รวมไปถึงตัวหน่วงเสียงเพื่อลดระดับเสียงต่ำ เหมาะสำหรับเกมเมอร์ที่กำลังมองหาคีย์บอร์ดไร้สายดีไซน์สวยงาม ขนาดกะทัดรัด Razer รุ่นนี้เป็นตัวเลือกที่ดีเลยค่ะ

ยี่ห้อ	Razer
ราคา	฿4,190
รุ่น	Blackwidow V3 TKL

9. Logitech รุ่น K380 Multi-Device wireless

คีย์บอร์ดไร้สายยอดนิยม Logitech รุ่น K380 Multi-Device รุ่นนี้ออกแบบมาเพื่อเพิ่มความสะดวกสบายในการพิมพ์ สามารถใช้ได้กับคอมพิวเตอร์ แล็ปท็อป สมาร์ทโฟน แท็บเล็ต Logitech คีย์บอร์ด มีขนาดเล็กกะทัดรัดโดดเด่นไม่เหมือนใคร ใช้งานง่ายขึ้น สามารถรองรับการเชื่อมต่ออุปกรณ์สูงสุด 3 อุปกรณ์ ผ่าน Bluetooth ทั้งนี้ยังสลับระหว่างอุปกรณ์ได้ทันทีด้วยปุ่ม Easy-Switch นอกจากนี้ยังสามารถปรับเปลี่ยน iOS รองรับคีย์บอร์ดภายนอกซึ่งมีเลย์เอาต์เฉพาะของ Apple / macOS / iOS และ iPadOS โดยมีแผนผังปุ่มสำหรับอุปกรณ์ทำให้เราได้คุ้นเคยกับแป้นคีย์บอร์ดมากขึ้น ไม่ว่าจะพิมพ์งาน หรือคุยแชทต่างๆ ก็ง่ายขึ้น หากใครกำลังมองหาคีย์บอร์ด Bluetooth ดีไซน์สวย สีสันน่าใช้ ขนาดพกพาได้ทุกที่ รองรับทั้งสมาร์ทโฟน และแท็บเล็ต Logitech K380 Multi-Device รุ่นนี้ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเลยค่ะ

ยี่ห้อ	Logitech
ราคา	฿1,090
รุ่น	K380 Multi-Device

10. MOFii WAFFLE BLUETOOTH KEYBOARD

คีย์บอร์ดไร้สาย MOFii WAFFLE BLUETOOTH KEYBOARD ใช้งานง่ายแค่เพียงเชื่อมต่อผ่านอุปกรณ์ Windows / MacOS / iOS / Chrome / Android Apple / TV เชื่อมต่อง่ายด้วย Bluetooth เพียงกด FN + C โดยเลือกชื่อ Waffle Keyboard เมื่อเชื่อมต่อแล้วใช้งานได้เลยเชื่อมต่อได้ไกล ไม่ดีเลย์ในระยะ 10 เมตร ดีไซน์ปุ่มเป็นทรงกลม โค้งมนคล้ายปุ่มพิมพ์ดีดสมัยก่อน ทำปุ่มยกสูงขึ้นแยกจากตัวคีย์บอร์ด ลดการสะสมของฝุ่น และลดโอกาสที่สิ่งแปลกปลอมเข้าไปในตัวคีย์บอร์ดด้วย รุ่นนี้มี 84 ปุ่ม พร้อมปุ่ม Function Key หรือปุ่มF 12 ปุ่ม และ ปุ่มเลื่อนหน้าขึ้น / ลง Page Up / Down ปุ่ม Home ปุ่ม End และ Numpad ปุ่ม ตัวเลขด้านใต้คีย์บอร์ดมีช่องใส่ถ่านขนาด AAA 2ก้อน มาพร้อมยางกันลื่นของมุมด้านใต้ทั้ง 4 ด้านของคีย์บอร์ด ทำให้คีย์บอร์ดไม่ขยับไปจากตำแหน่งการพิมพ์ สำหรับใครกำลังมอง คีย์บอร์ดไร้สาย ดีไซน์คลาสสิก แนะนำ MOFii รุ่นนี้เลยค่ะ

ยี่ห้อ	MOFii
ราคา	฿890