รองเท้าวิ่ง นับเป็นอุปกรณ์สำคัญสำหรับกีฬาการวิ่งเป็นอย่างยิ่ง เนื่องจากรองเท้าจะทำหน้าที่ในการรองรับแรงกระแทกขณะที่เราวิ่ง ดังนั้นการเลือกรองเท้าวิ่งจึงควรเลือกให้เหมาะสมทั้งขนาด น้ำหนัก รูปร่างของเท้า ลักษณะประเภทของเส้นทางวิ่ง และพื้นของรองเท้าที่ใช้ในการรับแรงกระแทก ซึ่งการเลือกรองเท้าสำหรับวิ่ง ย่อมมีความแตกต่างจากรองเท้าปกติแน่นอนค่ะ เพราะรองเท้าวิ่งจะต้องให้ความสำคัญเรื่องของน้ำหนักรองเท้า, การรองรับแรงกระแทกขณะวิ่ง และการระบายอากาศมากกว่ารองเท้าปกติ และเพื่อให้การวิ่งได้ประสิทธิภาพและลดโอกาสการบาดเจ็บที่อาจเกิดขึ้นได้ รองเท้าวิ่งจึงออกแบบให้มีรองเท้าสำหรับผู้หญิงโดยเฉพาะ เนื่องจากลักษณะทางกายภาพของผู้ชายและผู้หญิงมีลักษณะแตกต่างกัน เช่น ขนาด นอกจากรองเท้าของผู้ชายจะมีขนาดใหญ่และยาวกว่าผู้หญิงอยู่แล้ว เท้าของผู้ชายก็ยังมีลกษณะที่อูมและกระดูกโปนออกมา ทำให้รองเท้าผู้ชายมีทรงรองเท้าที่กว้างกว่ารองเท้าผู้หญิง ดังนั้นแม้ผู้หญิงจะใส่รองเท้าผู้ชายที่มีขนาดที่เราสามารถใส่ได้ แต่จะไม่พอดีและไม่กระชับเท้าของเรา เช่นเดียวหากผู้ชายมาใส่รองเท้าวิ่งของผู้หญิงก็จะรู้สึกคับไม่สบายเท้าเช่นเดียวกันคะ เรามาดูกันคะถ้าเราจะซื้อรองเท้าวิ่ง เราต้องมีวิธีการเลือกอย่างไรบ้าง และวันนี้มินนี่รีวิว จะมาแนะนำ 10 รองเท้าวิ่งผู้หญิง ยี่ห้อไหนดี กระชับไม่เจ็บเท้า ดีไซน์เก๋ๆ
การเลือกรองเท้าวิ่งสำหรับผู้หญิง
- ขนาด: ทุกคนส่วนใหญ่จะนึกถึงความยาวของเท้าเท่านั้น แต่จริงๆ แล้วยังนับรวมถึงความกว้างของเท้าด้วย ซึ่งหมายถึงส่วนที่กว้างที่สุดของเท้านั้นเอง ความยาวขอรองงเท้าวิ่งที่เหมาะสม คือ หลังจากที่เราสวมรองเท้า ปลายนิ้วไม่ควรชนหัวของรองเท้าเกินไป ให้เราสามารถขยับปลายนิ้วเท้าได้ เวลาวิ่งจะส่งผลให้เจ็บเล็บหรือเล็บดำได้ ส่วนความกว้างของเท้า เราก็จำเป็นต้องเลือกให้เหมาะสมเช่นกัน ถ้าเราเป็นคนเท้ากว้าง เราควรเลือกทรงรองเท้าที่ลักษณะที่หน้ากว้าง เพื่อไม่บาดเจ็บเท้าขณะสวมใส่
- ลักษณะของฝ่าเท้าหรือสรีระของเท้า: นับเป็นอีกหนึ่งข้อสำคัญในการเลือกรองเท้าวิ่ง เพราะฝ่าเท้าของแต่ละคนจะมีลักษณะแตกต่างกันออกไป ซึ่งเราสามารถตรวจสอบลักษณะฝ่าเท้าได้โดยทำให้ฝ่าเท้าเราเปียก แล้วนำมาวางบนกระดาษที่แห้ง เพื่อดูลักษณะของฝ่าเท้าเราบนกระดาษ
- พื้นรองเท้า (cushion): ควรเลือก support ให้เหมาะสมกับลักษณะการวิ่ง การลงน้ำหนักและระยะทางในการวิ่งของเรา เช่น การวิ่งแล้วลงน้ำหนักที่ส้นเท้า หน้าเท้า หรือ ลงเสมอกันทั้งเท้า ควรเลือกรองเท้าที่มี support ที่ต่างกัน เพื่ออาการการบาดเจ็บจากการวิ่ง
- ลักษณะการวิ่งและประเภทของการวิ่ง: ก็นับว่าเป็นอีกหนึ่งข้อที่ไม่ควรมองข้าม เนื่องจากการวิ่งมีหลายประเภท เช่น การวิ่งระยะสั้น การวิ่งระยะไกล การวิ่งเทรล หรือการวิ่งบนลู่ เราจำเป็นต้องเลือกรองเท้าให้สัมพันธ์กับการวิ่งที่เราเลือก เพื่อให้ได้ประสิทธิภาพในการวิ่งมากที่สุด และลดอาการการปวดเจ็บที่อาจเกิดจากการวิ่ง
1. Adidas ULTRABOOST LIGHT
มาสัมผัส รองเท้าวิ่ง Ultraboost ที่มีน้ำหนักเบาที่สุด และตอบสนองได้ดีเวลาวิ่ง รุ่นนี้มีส่วนประกอบของวัสดุ PARLEY OCEAN PLASTIC มาพร้อมเทคโนโลยี BOOST ใหม่ล่าสุดจากอาดิดาส Light BOOST เป็นเทคโนโลยีที่อยู่ในพื้นชั้นกลางช่วยทำให้มีน้ำหนักเบาที่สุด จะวิ่งไกลด้วยความเร็วเท่าไหร่ก็ทำได้ดี อัปเปอร์ทำจากผ้า adidas PRIMEKNIT+ และ Forgedmesh ช่วยล็อกกระชับช่วงกลางเท้าไม่ให้หลุด และหน้าผ้าที่จะยืดขยายตามการเคลื่อนไหวของเท้า ระบายอากาศได้ดี ด้วยเทคโนโลยี Linear Energy Push ให้คุณวิ่งได้อย่างคล่องตัวตั้งแต่เริ่มจนถึงเส้นชัย ความน่าสนใจอยู่ที่พื้นรองเท้าชั้นกลาง Light BOOST เป็นเจเนอเรชั่นใหม่ของ adidas BOOST โดยออกแบบให้มีโมเลกุลที่เป็นเอกลักษณ์ทำให้ได้โฟม BOOST ที่เบาที่สุด ด้วยแคปซูล BOOST หลายร้อยแคปซูลที่ช่วยเสริมพลังในการวิ่งให้วิ่งได้เร็ว แรง และช่วยลดแรงกระแทกเวลาเท้าลงสู่พื้น พร้อมทั้งมอบความสบายระดับสุด จะวิ่งบนพื้นแบบไหนก็มั่นใจทุกย่างก้าว แนะนำเลยค่ะ
คุณสมบัติ
✓ มีน้ำหนักเบามาก
✓ สวมใส่สบาย
✓ ช่วยลดแรงกระแทกเวลาเท้าลงสู่พื้น
✓ อัปเปอร์ช่วยล็อกกระชับช่วงกลางเท้าไม่ให้หลุด
✓ ช่วยเสริมพลังในการวิ่งให้วิ่งได้เร็ว แรง
✓ ระบายอากาศได้ดี
| ยี่ห้อ | ADIDAS |
| ราคา | ฿7,000 |
2. Nike InfinityRN 4
Nike InfinityRN 4 น้องใหม่ล่าสุดที่ปรับเปลี่ยนมาจากรุ่นยอดนิยมที่คุ้นเคย รุ่นนี้มาพร้อมระบบลดแรงกระแทกที่รองรับเท้าได้ดี เวลาวิ่งให้สัมผัสที่นุ่มนวล พร้อมทั้งส่งแรงกลับได้อย่างดีด้วยโฟม Nike ReactX แบบใหม่ ช่วยให้คุณรู้สึกมีพลังดีดตัวได้ดีขึ้น นอกจากนี้โฟม ReactX เข้ากับ Flyknit ทำให้กระชับเท้าพอดีที่สุด ทั้งนี้ยังระบายอากาศได้ดีไม่อับชื้นมีน้ำหนักเบาใส่สบาย Nike InfinityRN 4 รุ่นนี้เสริมให้สูงเป็นพิเศษ แต่นุ่มและสบายมากขึ้น ช่วยให้คุณทรงตัวได้ดี และก้าวได้อย่างเป็นธรรมชาติมากขึ้น พื้นรองเท้าชั้นนอกทรงโค้งช่วยให้เท้าของคุณลื่นไหลตั้งแต่ส้นจรดปลายเท้าและตลอดทุกครั้งที่ก้าวหรือเวลาที่ลงเท้า อีกทั้งยังช่วยให้สปริงตัวได้มากขึ้นเล็กน้อยในขณะย่างก้าว ชั้นบุเคลือบกันน้ำที่ปลายเท้าเพื่อให้แห้งอยู่เสมอแม้จะเปียกเหงื่อ หรือฝน ก็ยังคงแห้ง พื้นรองเท้าชั้นนอกออกแบบให้เป็นลายวาฟเฟิลทั้งนี้เพื่อให้การยึดเกาะที่แน่น มั่นคง และทนทาน ลิ้นรองเท้า Flyknit มีความนุ่มเป็นพิเศษและปรับได้ ส่วนหุ้มข้อจากโฟมนุ่ม ช่วยรองรับทุกการสัมผัส เพื่อให้คุณลุยไปทุกที่ได้เร็ว และไกลขึ้น ด้วยดีไซน์ที่ใช้งานง่าย แต่ช่วยรองรับได้ดีในทุกย่างก้าว ต้อง Nike InfinityRN 4 คู่นี้เลยค่ะ
คุณสมบัติ
✓ มีน้ำหนักเบา
✓ ช่วยส่งพลังให้ดีดตัวได้ดีขึ้น
✓ มีระบบลดแรงกระแทกที่รองรับเท้าได้ดี
✓ นุ่ม และใส่สบาย
✓ ส่วนหุ้มข้อจากโฟมนุ่ม ช่วยรองรับทุกการสัมผัส
✓ ชั้นบุเคลือบกันน้ำ
✓ ช่วยให้คุณทรงตัวได้ดี และก้าวได้อย่างเป็นธรรมชาติ
✓ พื้นรองเท้าชั้นนอกลายวาฟเฟิล ให้การยึดเกาะที่แน่น มั่นคง และทนทาน
| ยี่ห้อ | NIKE |
| ราคา | ฿6,000 |
3. NEW BALANCE FUELCELL REBEL V3
NEWBALANCE FUELCELL REBEL V3 รองเท้าวิ่งซ้อมประจำวัน สำหรับผู้มีวิ่งเท้าปกติ นับเป็นหนึ่งในรองเท้าวิ่งที่น่าสนใจ เพราะออกแบบมาเพื่อเพิ่มพลังในการวิ่งประจำวัน การวิ่งซ้อม รวมถึงการวิ่งระยะทางไกล ความโดนเด่น คือเทคโนโลยีพื้นโฟม FuelCell เฉพาะของ New Balance ที่น้ำหนักเบา ดีด เด้ง ตอบสนองพื้นได้ดี ทำให้รองรับการกระแทกและส่งแรงคืนได้ดี ส่วนของ Upper ถักได้น้ำหนักเบาพร้อมกับโครงสร้างที่เหมาะสม กระชับและเข้ากับรูปเท้าและช่วยระบายความร้อนระหว่างการวิ่ง พื้นยางชั้นด้านนอกสีสดใส และเป็นผิว Blown Rubber Outsole สามารถยึดเกาะทุกสภาพพื้นผิวได้อย่างดีเยี่ยม ทำให้ New Balance ยังคงเอกลักษณ์ความรู้สึกที่วิ่งสนุกเช่นเคย
คุณสมบัติ
✓ มีเทคโนโลยีพื้นโฟม ที่น้ำหนักเบา ดีด เด้ง ตอบสนองพื้นได้ดี
✓ รองรับการกระแทกและส่งแรงคืนได้ดี
✓ Upper ถักได้น้ำหนักเบา กระชับและเข้ากับรูปเท้าและช่วยระบายความร้อนระหว่างการวิ่ง
✓ สามารถยึดเกาะทุกสภาพพื้นผิวได้อย่างดีเยี่ยม
| ยี่ห้อ | NEWBALANCE |
| ราคา | ฿1,197 |
4. FILA RGB FLEX 2
FILA ออกแบบรองเท้าวิ่ง RGB FLEX 2 เพื่อให้รองรับแรงกระแทกและยังเพิ่มความเบาสบายให้กับเท้าขณะวิ่ง โดยมีพื้นรองเท้านุ่มและรองรับแรงกระแทกได้ดี บุนุ่มด้วยรอบข้อเท้า ส่วนของ Upper เป็นผ้าถักตาข่ายที่สามารถยืดหยุด ส่งผลให้รองเท้าโอบอุ้มสระรีของเท้าให้ค่อนข้างกระชับ เพิ่มความสบายและความคล่องตัวยิ่งขึ้น มาพร้อมกับเชือกรองเท้าแบบยืด เพื่อเพิ่มความกระชับได้ในขณะวิ่งได้อีก และยังมีพื้นรองเท้าชั้นนอกที่ยึดเกาะพื้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ อีกทั้งมีแถบดึงส้นรองเท้าช่วยให้สวมใส่ได้สะดวกยิ่งขึ้น และที่สำคัญอีกหนึ่งข้อคือ FILA RGB FLEX 2 ออกแบบมาให้สามารถใส่ได้ทั้งผู้ชายและผู้หญิง มีให้เลือกถึง 3 สีด้วยกัน ชมพู-ขาว, เบจ-น้ำเงิน และดำ
คุณสมบัติ
✓ รองรับแรงกระแทกและยังเพิ่มความเบาสบายให้กับเท้าขณะวิ่ง
✓ Upper เป็นผ้าถักตาข่ายที่สามารถยืดหยุ่น ระบายอากาศได้ดี
✓ มีพื้นรองเท้าชั้นนอกที่ยึดเกาะพื้นผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพ
✓ มีแถบดึงส้นรองเท้าช่วยให้สวมใส่ได้สะดวกยิ่งขึ้น
| ยี่ห้อ | FILA |
| ราคา | ฿2,093 |
5. SKECHERS GORUN RIDE 10
Skechers ยังคงพัฒนาอย่างเนื่องเรื่องของการเคลื่อนไหวอย่างความสบาย ด้วย Skechers GoRun 10 ที่ออกแบบรองเท้ามาให้สวมใส่สบายและน้ำหนักเบา มี cushion รองรับการกระแทกได้อย่างดี ด้วยระบบพื้นรองเท้าชั้นในเป็นสิทธิบัตรเฉพาะของ Skechers Arch Fit ห่อหุ้มส้นเท้าได้อย่างพอดี พื้นรองเท้าชั้นกลางสามารถรองรับการกระแทกได้ดีด้วย Hyper Burst ให้การตอบสองได้และน้ำหนักเบา ซึ่งโฟม ให้ความยืดหยุ่นเป็นนวัตรกรรมที่สร้างขึ้นโดยกระบวนการ Super Critical และพื้นรองเท้าชั้นนอกใช้ Goodyear Performance Outsole ทำให้ทุกการก้าวมีการยึดเกาะที่ดี มั่นคง และทนทานต่อการใช้งาน Upper ทำมาจากผ้าตาข่ายระบายอากาศได้ดี มาพร้อมกับดีไซร์เชือกแบบผูก
คุณสมบัติ
✓ สวมใส่สบายและน้ำหนักเบา มี cushion รองรับการกระแทกได้อย่างดี
✓ พื้นรองเท้าชั้นกลางสามารถรองรับการกระแทกได้ดีด้วย Hyper Burst
✓ นรองเท้าชั้นนอกใช้ Goodyear Performance Outsole ทำให้ทุกการก้าวมีการยึดเกาะที่ดี มั่นคง และทนทานต่อการใช้งาน
✓ Upper ทำมาจากผ้าตาข่ายระบายอากาศได้ดี
| ยี่ห้อ | SKECHERS |
| ราคา | ฿3,690 |
6. ASICS Novablast 3 Platinum
จุดเด่นของ ASICS Novablast 3 Platinum คือ พื้นรองเท้า ออกแบบมาเหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบความนุ่มและเด้ง พื้นรองเท้า Cushion หนา ด้วยเทคโนโลยี FF BLAST PLAS ที่สามารถดูดซับแรงกระแทกและเพิ่มการเด้งกลับที่ตอบสนองได้มากขึ้นในขณะที่วิ่ง สามารถลดแรงกระแทกของเข่าได้เป็นอย่างดี ถูกพัฒนามาจากจุดอ่อนของ ASICS Novablast 2 ในเรื่องของน้ำหนัก ทำให้ ASICS Novablast 3 มีความเบากว่ารุ่นก่อนหน้า เพิ่มพื้นรองเท้าชั้นนอกด้วย AHAR ทำให้ความทนทานสูง Upper เป็นผ้าตาข่ายสามารถระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม และมีลวดลายสะท้อนแสงเพิ่มการมองเห็นได้ชัดเจน แม้ในพื้นที่มีแสงน้อย ยังมีลิ้นรองเท้าที่เย็บอย่างแข็งแกร่งช่วยกระชับส่วนกลางเท้าและลดการลื่นไหลของลิ้นรองเท้า จึงทำให้เป็นที่ตอบโจทย์ของนักวิ่งหลายๆคนได้เป็นอย่างดี สำหรับรุ่นนี้ออกแบบมาสำหรับผู้ที่มีลักษณะเท้าปกติ และผู้ที่มีอุ้งเท้าสูง
คุณสมบัติ
✓ มีเทคโนโลยี FF BLAST PLAS ที่สามารถดูดซับแรงกระแทกและเพิ่มการเด้งกลับที่ตอบสนองได้มากขึ้น
✓ พื้นรองเท้าชั้นนอกด้วย AHAR ทำให้ความทนทานสูง
✓ Upper เป็นผ้าตาข่ายสามารถระบายอากาศได้อย่างดีเยี่ยม
✓ น้ำหนักเบา
| ยี่ห้อ | ASICS |
| ราคา | ฿4,900 |
7. ON RUNNING CLOUD 5
ON RUNNING CLOUD 5 เป็นรองเท้าวิ่งที่กำลังได้รับความนิยม เพราะสามารถใช้งานได้หลากหลายไลฟ์สไตล์ ทั้งสวมใส่สำหรับวิ่ง, ทำงาน, เที่ยว หรือสวมใส่ทั่วไป เนื่องจากครบเครื่องด้วยเทคโนโลยีเอกสิทธิ์เฉพาะของ On Running ได้แก่ Zero-Gravity Cushioning สร้างจากโฟมที่มีน้ำหนักเบามีความยืดหยุ่น มีร่องลึกตรงกลาง และการตอบสนองต่อแรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์ ทำให้พื้นรองเท้าทีความนุ่ม เด้ง การวิ่งจึงเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติ และมั่นคงในทุกก้าวของการวิ่ง Speed-Lacing System เป็นรูปแบบการผูกเชือกรองเท้าที่สามารถปรับให้เข้ากับเท้าได้อย่างไม่ต้องผูก เพื่อความสบาย คล่องตัวของผู้วิ่ง ส่วนของ Upper เป็นช่องตาข่ายช่วยในการระบายอากาศ และมีแถบสะท้อนแสงเพื่อสามารถมองเห็นได้ชัดเจนในขณะที่มีแสงน้อย จุดเด่นอีกข้อของ ON RUNNING CLOUD 5 คือ สายรัดบริเวณส้นเท้าที่ล้อมรอบเท้ามีความยืดหยุ่นต่อการเคลื่อนไหวของเท้าในขณะที่วิ่ง
คุณสมบัติ
✓ มีน้ำหนักเบา ยืดหยุ่น มีร่องลึกตรงกลาง และการตอบสนองต่อแรงโน้มถ่วงเป็นศูนย์
✓ มีUpper เป็นช่องตาข่ายช่วยในการระบายอากาศ
✓ มีแถบสะท้อนแสงเพื่อสามารถมองเห็นได้ชัดเจนในขณะที่มีแสงน้อย
✓ ใช้งานได้หลากหลายไลฟ์สไตล์
| ยี่ห้อ | ON |
| ราคา | ฿4,990 |
8. HOKA Rincon 3
HOKA เป็นรองเท้าน้ำหนักเบา สวมใส่สบาย เนื้อผ้าเป็นตาข่ายสามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี ทำให้ถ่ายเทความชื้นหรือเหงื่อที่เท้าได้ค่อยข้างดี ลิ้นรองเท้า และตรงแถบดึงที่ส้นเท้าออกแบบให้บาง เพื่อลดน้ำหนัก แต่ยังคงประสิทธิภาพการใช้งานได้ดี ส่วนของตัวพื้นรองเท้าทำมาในลักษณะของโฟม EVA เป็นเอกลักษณ์เฉพาะของแบรนด์ HOKA จึงช่วยในเรื่องรองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม พื้นรองเท้าชั้นนอกสุดทำจากยาง ซึ่งทำให้มียึดเกาะพื้นผิวสูง ให้การเคลื่อนไหวที่ไหลลื่น มั่นใจในขณะที่วิ่ง จุดเด่นสำคัญของรองเท้า HOKA Rincon 3 คือ รองเท้ามีความหนานุ่ม แต่น้ำหนักเบา ทำให้สามารถทำความเร็วได้ นอกเหนือจากนี้ HOKA Rincon 3 ยังมี รุ่น HOKA Rincon 3 wide ที่ออกแบบมาสำหรับ กลุ่มคนที่มีทรงเท้าหน้ากว้างอีกด้วย รุ่นนี้มีให้เราได้เลือกถึง 3 สีด้วยกัน สีม่วง สีส้ม และรุ้ง (ตามรูปเป็นสีรุ้ง) แต่ละสีรับรองถูกใจสาวๆอย่างแน่นอน
คุณสมบัติ
✓น้ำหนักเบา สวมใส่สบาย
✓ เนื้อผ้าเป็นตาข่ายสามารถระบายอากาศได้เป็นอย่างดี
✓ ช่วยในเรื่องรองรับแรงกระแทกได้ดีเยี่ยม
✓ เเกาัพื้นได้ดี
| ยี่ห้อ | HOKA |
| ราคา | ฿3,592 |
9. UNDER ARMOUR UA HOVR MACHINA 3
สำหรับ Under Armour UA HOVR Machine 3 นับ Under Armour ทำออกมาได้ดีเลยทีเดียว เพราะรองเท้ารุ่นนี้นอกจากคืนแรงส่งและให้ความเร็วจากแผ่นแกนขับเคลื่อน Pebax แล้ว Under Armour UA HOVR Machine 3 ยังช่วยโค้ชผู้วิ่งได้แบบเรียลไทม์ (Real Time) เพื่อให้ผู้วิ่ง วิ่งได้ดียิ่งขึ้นเมื่อเชื่อมต่อรองเท้ากับ UA MapMyRun application การเชื่อมต่อกับ UA MapMyRun จะติดตามและวิเคราะห์เกณฑ์วัดเกี่ยวกับการวิ่ง เพื่อให้ผู้วิ่งเป็นนักวิ่งทีดียิ่งขึ้น เริ่มที่การออกแบบส้นรองเท้าตามหลักอากาศพลศาสตร์ และส่วนหุ้มส้นเท้าด้วย TPU ภายนอก ช่วยเพิ่มการรองรับและความแน่กระชับ ต่อมาที่แผ่นรอง EVA ขึ้นรูปมาเพื่อเพิ่มความสบาย ความยืดหยุ่น และรองรับแรงกระแทกสำหรับการวิ่งทั้งในระยะใกล้และระยะไกล และ Under Armour ยังมีเทคโนโลยีเฉพาะของแบรนด์ คือ UA HOVR เป็นระบบตอบสนองดีเยี่ยมที่ลดแรงกระทบ และคืนพลังงาน ช่วยผลักดันให้ผู้วิ่งไปข้างหน้า ส่วน Upper ทำจากสเปเซอร์ Wrap ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ระบายอากาศได้ดี และปราศจากส่วนตะเข็บ ส่งผลให้ผู้วิ่ง วิ่งได้ไกลโดยไม่รู้สึกระคายเคือง ดังนั้นถ้าสาวๆ คนไหนอยากเป็นผู้ที่นำเรื่องของเทคโนโลยีการวิ่ง ต้องรองเท้า Under Armour UA HOVR Machine 3 คู่นี้เลยค่ะ
คุณสมบัติ
✓ ออกแบบส้นรองเท้าตามหลักอากาศพลศาสตร์ และส่วนหุ้มส้นเท้าด้วย TPU ภายนอก ช่วยเพิ่มการรองรับและความแน่กระชับ
✓ มีระบบตอบสนองดีเยี่ยมที่ลดแรงกระทบ และคืนพลังงาน
✓ Upper ทำจากสเปเซอร์ Wrap ออกแบบมาเป็นพิเศษเพื่อให้ระบายอากาศได้ดี และปราศจากส่วนตะเข็บ
✓ แผ่นรอง EVA ขึ้นรูปมาเพื่อเพิ่มความสบาย ความยืดหยุ่น และรองรับแรงกระแทก
| ยี่ห้อ | UNDER ARMOUR |
| ราคา | ฿5,490 |
10. NIKE React Infinity Run flyknit 3
สำหรับ NIKE React Infinity Run flyknit 3 ยังคงยืนหนึ่งเรื่องการ Support อย่างสูงสุดในทุกการก้าวให้สัมผัสนุ่มและมั่นคง เพื่อพิชิตการวิ่งแบบเร็ว ช่วยให้คุณวิ่งได้เร็วขึ้นและไกลขึ้น ส่วนปลายเท้าออกแบบให้กว้างและมีชั้นโฟมที่ซ้อนกันสูงช่วยเสริมให้สามารถลดแรงกระแทกเป็นพิเศษ ให้ความรู้สึกสบายที่ย้ำไปบนพื้นถนน NIKE React Infinity Run flyknit 3 คู่นี้ให้การตอบสนองเรื่องของการสปริงตัวได้ดี โดยใช้เทคโนโลยี Nike React คือโฟมทนทาน น้ำหนักเบา โฟมมีลักษณะคานโค้ง พร้อมรองรับกับ 3 ระยะในการก้าวของผู้ที่วิ่ง ให้ความยืดหยุ่นเมื่อยกเท้าขึ้นจากพื้น ให้ย่างก้าวที่ไหลลื่นเมื่อเท้าเริ่มก้าวไปข้างหน้า และสุดท้ายยังช่วยลดแรงกระแทกเมื่อเท้าสัมผัสลงกับพื้น ส่วนบนหรือ Upper ใช้ Flyknit ซึ่งช่วยระบายอากาศในจุดที่ต้องการที่สุด โดยให้ความแข็งแรงและทนทาน ผลลัพธ์ที่ได้ทำให้เท้าแน่นกระชับตลอดเวลาในทุกระยะทางในการวิ่ง โดยทำงานร่วมกับเชือก Flywire สร้างสัมผัสความสบายและกระชับลงตัว และยังมีส่วนที่หุ้มข้อผลิตจากผ้าโฟมเนื้อนุ่มพิเศษที่เติมเต็มความสมบูรณ์ให้ NIKE React Infinity Run flyknit 3 อย่างลงตัว
คุณสมบัติ
✓ Support อย่างสูงสุดในทุกการก้าว
✓ สัมผัสนุ่มและมั่นคง
✓ มีเทคโนโลยี Nike React โฟมทนทาน น้ำหนักเบา
✓ Upper ใช้ Flyknit ซึ่งช่วยระบายอากาศในจุดที่ต้องการ
| ยี่ห้อ | NIKE |
| ราคา | ฿5,600 |
