รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี [2024] ปลอดภัยได้มาตรฐาน น้ำหนักเบาพกพาสะดวก

รถเข็นเด็ก นับว่าเป็นสิ่งจำเป็นอย่างมากที่คุณพ่อคุณแม่มือใหม่ต้องเตรียมเพราะช่วยทำให้เดินทางออกนอกบ้านได้อย่างสะดวกและปลอดภัย ยิ่งเวลาที่เราพาลูกน้อยไปเที่ยว หาหมอ หรือเดินห้างสรรพสินค้า เป็นต้น และเมื่อลูกน้อยง่วงนอนก็สามารถนอนได้เลย และยังช่วยลดความเมื่อยล้าจากการอุ้มลูกเป็นเวลานานๆ ได้อย่างดีจึงเป็นอีกหนึ่งอุปกรณ์ที่ใช้กันอย่างแพร่หลาย ยิ่งในยุคนี้ได้มีการพัฒนาให้มีความหลากหลายมากขึ้นจากแต่ก่อน ไม่ว่าจะเป็นรูปทรง ฟังก์ชั่น รูปแบบการใช้งาน บางรุ่นเป็นทั้งรถเข็น คาร์ซีท หรือ หิ้วแบบตะกร้าได้ ด้วยมีรูปแบบ คุณสมบัติ และยี่ห้อที่หลากหลายแตกต่างกันไป จนทำให้คุณพ่อคุณแม่ หลายคนเลือกไม่ถูก มินนี่ได้รวบรวม 10 รถเข็นเด็ก ยี่ห้อไหนดี ที่แข็งแรง มีคุณภาพ ปลอดภัย ได้มาตรฐาน และใช้งานได้นาน มาฝาก พร้อมคำแนะนำ สำหรับคุณพ่อคุณแม่มือใหม่ ก่อนตัดสินใจซื้อด้วยค่ะ

ข้อพิจารณาในการเลือกซื้อรถเข็นเด็ก

ก่อนที่คุณพ่อ คุณแม่จะซื้อเข็นให้กับลูกน้อย ควรเลือกดูให้ดีก่อนตัดสินใจซื้อ โดยมีข้อพิจารณาดังนี้

1. ดูที่ระบบความปลอดภัย
   ก่อนที่เราจะซื้อรถเข็นเด็กนั้นควรดูที่ระบบความปลอดภัยของรถเข็นด้วย เช่น
   • ระบบเบรก จะมี 2 แบบคือ เบรกมือ และเบรกเท้า โดยเบรกมือ Hand Break จะสะดวก และใช้งานทันท่วงทีกว่าเบรกเท้า ถ้าเกิดคุณพ่อคุณแม่กำลังซื้อของเพลิน แต่ลืมกดเบรกเท้าไว้ เบรกมือจะช่วยกันรถเข็นไหลได้ทันค่ะ
   • ระบบเข็มขัดนิรภัย ควรตรวจดูว่าตัวเข็มขัด หรือสายรัดนั้นสามารถปรับได้ดีไหม แน่นเกินไปหรือไม่ สามารถแกะได้ทันท่วงทีไหมเมื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน และควรอยู่ในตำแหน่งที่พอดีกับลูกน้อย ทั้ง ไหล่ และขาค่ะ
2. ขนาด และอายุการใช้งาน
   สำหรับขนาดของรถเข็นนั้น ควรเลือกที่สามารถใช้งานได้ตั้งแต่เด็กแรกเกิด จนถึงอายุ 5 – 6 ปี และรองรับน้ำหนักได้เท่าไร เพื่อที่จะได้คำนวนน้ำหนักของลูกให้เหมาะสมกับการใช้งาน
3. เลือกจากฟังก์ชั่น
   ฟังก์ชั่นเสริมในรถเข็นเด็กก็มีส่วนสำคัญที่ทำให้คุณพ่อ คุณแม่ตัดสินใจซื้อได้ง่ายขึ้นค่ะ เช่น มีระบบกันสะเทือนทุกสภาพผิวบนล้อ ตัวหลังคาป้องกันแสง UPF 50+ มีช่องใส่แก้วน้ำ ใส่ขวดนม สามารถเสริมที่นั่งสำหรับ แฝด หรือพี่น้องได้ พับเก็บง่าย ตัวตะกร้าใส่ของด้านล่างสามารถใส่ของได้เยอะ และสามารถถอดเป็นคาร์ซีทได้ เป็นต้นค่ะ
4. การรับประกันหลังการขาย
   ควรเลือกสินค้าที่มีการรับประกันสินค้าและบริการหลังการขาย เพราะหากเวลาที่เราซื้อสินค้าไปแล้ว สินค้าอาจเกิดปัญหาหรือเสีย เราจะได้ไม่ต้องไปหาศูนย์ซ่อมให้ยุ่งยาก แต่หากมีการรับประกันสินค้าและมีศูนย์ซ่อม เราก็สามารถนำไปเปลี่ยนหรือซ่อมได้เลยค่ะ
5. เลือกที่ได้มาตรฐานความปลอดภัย
   การเลือกซื้อสินค้าสิ่งสำคัญควรเลือกที่ได้รับมาตรฐานความปลอดภัย เพราะเราจะสามารถได้มั่นใจในตัวสินค้า ว่าปลอดภัยในการใช้งาน ยิ่งในปัจจุบันนี้มีการผลิตรถเข็นเด็กที่มีราคาถูกออกมาอย่างมากมาย ถ้าหากเราซื้อโดยไม่ดูก่อน อาจจะใช้งานไม่นานก็พัง แถมยังไม่เซฟตัวของลูกน้อยด้วยค่ะ
6. วัสดุ
   ควรเลือกตัววัสดุที่ทำ ควรมีความแข็งแรงทนทาน โครงสร้างทำจากอลูมิเนียม ไม่เป็นสนิม ตัวล้อไม่แตกง่าย เบาะผ้ารถเข็นมีความนุ่มไม่ระคายผิวของลูกน้อย หลังคาควรทำจากผ้า UPF 50+ ป้องกัน UV 50+ และไม่ลามไฟ

ประเภทของรถเข็นเด็ก

รถเข็นเด็กในปัจจุบันนี้มี 4 ประเภทหลัก ได้แก่

1. แบบอเนกประสงค์
   รถเข็นอเนกประสงค์เป็นรถเข็นที่เราใช้งานในชีวิตประจำวัน ไม่ว่าจะพาลูกไปเที่ยว หาหมอ หรือไปเดินห้าง แต่อาจจะไม่ได้มีฟังก์ชั่นในการใช้งานที่หลากหลายค่ะ
2. สำหรับจ๊อกกิ้ง
   รถเข็นสำหรับจ๊อกกิ้งนั้นสำหรับเวลาที่เราพาลูกไปเที่ยวที่มีผิวถนนขรุขระ ตัวล้อจะมีฟังก์ชั่น กันสะเทือน มีล้อขนาดใหญ่กว่ารถเข็นทั่วไป และมีความทนทานเป็นพิเศษ
3. แบบพกพา
   รถเข็นประเภทนี้จะมีน้ำหนักเบากว่าแบบอื่นๆ สามารถถือได้ด้วยมือเดียว แบบนี้เหมาะสำหรับการเดินทาง พับเก็บง่าย ขนาดเล็กกะทัดรัด
4. สำหรับเด็กแฝด หรือ พี่น้อง
   รถเข็นประเภทนี้เหมาะสำหรับครอบครัวที่มีลูก 2 คน โดยที่ตัวรถเข็นจะมีฟังก์ชั่นเสริมสำหรับติดตั้งเบาะเพิ่มให้นั่งได้ 2 คน แบบนี้มีราคาสูง แต่ก็หมดปัญหา เรื่องลูกทะเลาะกัน และนั่งได้สบายมากขึ้นค่ะ

1. รถเข็นเด็ก NUNA รุ่น Mixx next

รถเข็นเด็กแบรนด์ NUNA รุ่น Mixx next รุ่นนี้เหมาะสำหรับเด็กวัยแรกเกิด ถึง 5 ขวบ สามารถปรับเบาะนั่งได้ 2 รูปแบบ คือ หันหน้าเข้า และหันหน้าออก พับเก็บง่ายเพียง ประหยัดพื้นที่ เนื่องจากออกแบบมาให้ล้อพับเก็บเข้าไปกับตัวรถเข็นได้ เพื่อการขนย้ายที่สะดวกมากยิ่งขึ้น มาพร้อมสายคาดนิรภัยแบบ 5 จุด ปรับระดับได้ ตามมาตรฐานสากล ตัวเบาะนั่งมีตาข่ายช่วยระบายอากาศ ทำให้อากาศด้านในรถเข็นถ่ายเทได้ดี เบาะปรับเอนนอนราบได้ถึง 170 องศา ตัวเบาะนั่งสามารถถอดเปลี่ยนเพื่อทำความสะอาดได้ นอกจากนั้นรุ่นนี้ยังใช้คู่กับตะกร้าคาร์ซีทรุ่นอื่นๆ ของ Nuna ได้ด้วยค่ะ ที่วางขาปรับได้ 2 ระดับ ด้ามจับรถเข็นหุ้มด้วยหนัง สามารถปรับระดับความสูงได้ หลังคาทำจากวัสดุที่มีความสามารถในการป้องกันรังสีอัลตราไวโอเลตได้สูง สามารถยืดขยายถอดออกได้ มาพร้อมตะกร้าเก็บของขนาดใหญ่อยู่ใต้เบาะนั่ง ตัวล้อหลังมีขนาดใหญ่ โดยทุกล้อของ Mixx next ทำจากยาง และมีโช๊คอัพที่พัฒนาขึ้นด้วยเทคโนโลยี Free-flex suspension ช่วยลดแรงกระแทกได้ดี แม้พื้นขรุขระ หรือที่ลาดชัน ล้อหน้าหมุนได้ 360 องศา และสามารถล็อกรถเข็นได้ง่ายด้วยการใช้เท้าเหยียบเบรกที่ล้อหลัง บาร์กันตกหุ้มด้วยหนังถอดออกได้ สำหรับคุณพ่อ คุณแม่คนไหนไหนมองหารถเข็นเด็กที่ดี และปลอดภัยสำหรับลูกน้อยแนะนำแบรนด์ NUNA เลยค่ะ

ยี่ห้อ	NUNA
ราคา	฿38,880

2. รถเข็นเด็ก JOIE รุ่น Litetrax 4 DLX

JOIE รถเข็นเด็ก รุ่น Litetrax 4 DLX รุ่นนี้สำหรับแรกเกิดถึง 4 ขวบ หรือรองรับน้ำหนักได้ถึง 22 กิโล ถูกออกแบบมาให้ตอบโจทย์ในทุกการใช้งาน และเรื่องความปลอดภัยของเจ้าตัวน้อย ตัวเบาะนั่งกว้างสามารถปรับเอนได้ 3 ระดับ คือ ปรับนั่ง ปรับเอน และปรับนอน ที่วางขาปรับได้ 2 ระดับ คือ ปรับนั่ง และปรับนอน รุ่นนี้สามารถใช้คู่กับตะกร้าคาร์ซีทได้ค่ะ พับเก็บง่ายเพียงดึงตรงกลางเบาะนั่ง มีระบบล็อคอัตโนมัติ พกพาสะดวก ตัวบาร์กั้นกันตกถอดออกง่าย หลังคาปรับได้ เนื้อผ้าทำมาจากผ้า UPF 50+ ที่สามารถป้องกันรังสี UV 50+ และละอองน้ำขนาดเล็ก มาพร้อมตะกร้าสำหรับใส่ของด้านล่างเบาะนั่งขนาดใหญ่ จุของได้เยอะรุ่นนี้มีถาดสำหรับวางแก้ว ขวดนม และที่เก็บของให้ ทุกล้อมีระบบกันสะเทือนรองรับทุกสภาพพื้นผิว ทำให้การเข็นมีความนุ่มนวลขึ้นแม้เข็นบนพื้นที่ขรุขระ หรือไม่สม่ำเสมอ มีระบบล็อคล้อคู่ด้านหน้า และล็อคล้อหลังโดยใช้เท้าเหยียบ นอกจากนี้ยังมีสายคาดนิรภัยแบบ 5 จุดตามมาตรฐานสากล สามารถปรับระดับได้ ทำให้ลูกน้อยรู้สึกปลอดภัยตลอดการเดินทางค่ะ

ยี่ห้อ	JOIE
ราคา	฿12,690

3. รถเข็นเด็ก Nuebabe รุ่น Next Gen 4 in 1

Nuebabe รถเข็นเด็กรุ่น Next Gen 4 in 1 รุ่นนี้ออกแบบโดยคำนึงถึงความปลอดภัย และสะดวกสบายของลูกน้อย ได้ผ่านการตรวจสอบมาตรฐานความปลอดภัยแล้ว รถเข็นรุ่นนี้สามารถใช้ได้ทั้งเป็นรถเข็น ใช้เป็นเปลโยก ใช้เป็นกระเช้า หรือใช้เป็นคาร์ซีทได้ แต่การใช้งานเป็นคาร์ซีท เหมาะสำหรับหันเข้าหาเบาะรถเท่านั้นค่ะ Nuebabe รุ่นนี้สามารถใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ถึงเด็กที่มีน้ำหนัก 15 กก. เนื้อผ้าที่ตัวเบาะมีความนุ่มเบาสบาย ไม่ร้อน ระบายอากาศได้ดี นั่งสบาย มีเบาะกันกระแทกตรงศีรษะ มีเข็มขัดนิรภัยล๊อคป้องกันเด็ก 3 จุด มีหลังคากันแดดให้ และตัวล้อมีที่ล๊อคกันรถเข็นไหล รุ่นนี้ติดตั้งง่าย หากใครที่มองหารถเข็นเด็กที่สามารถใช้งานได้หลากหลาย และปลอดภัย Nuebabe รถเข็นเด็กรุ่น Next Gen 4 in 1ตัวนี้ตอบโจทย์การใช้งานได้ดีเลยค่ะ แนะนำ

ยี่ห้อ	Nuebabe
ราคา	฿12,900

4. รถเข็นเด็ก GLOWY รุ่น Lion Stroller

รถเข็นเด็กแบรนด์ GLOWY รุ่น Lion เป็นรถเข็นขนาดใหญ่ ดีไซน์สวยหรู ออกแบบมาเพื่อมอบความสะดวกสบายให้กับลูกน้อย ผสมผสานกับความแข็งแรง โครงสร้างอะลูมิเนียม ที่แข็งแรงทนทาน ไม่เป็นสนิม ผ่านมาตรฐานความปลอดภัยของอเมริกา ASTM – F8333 สามารถหันเบาะได้ 2 ทิศทาง มีล้อขนาดใหญ่รองรับการกระแทกได้เป็นอย่างดี ตัวเบาะที่นั่งหนานุ่ม ทำจากผ้าฝ้ายออร์แกนิคแท้ 100% ทำให้ลูกน้อยนั่งได้อย่างสบาย สามารถถอดซักได้ รุ่นนี้ปรับเอนนอนได้ถึง 170 องศา ปรับระดับได้ตามความเหมาะสม ตัวโครงสร้างพนักพิงเสริมแผ่นรองหลังทำให้เด็กนั่งแล้วหลังไม่ห่อ ไม่ผิดรูป เบาะรองน่องปรับระดับได้ทั้งนั่งหรือนอนก็สบาย มาพร้อมเข็มขัดนิรภัยแบบ 5 จุด ปลอดภัย สบายใจ มีระบบล็อกล้อเวลาจอดป้องกันรถเข็นไหล เพียงแตะครั้งเดียว ล็อกพร้อมกันได้ทั้งสองล้อหลัง ล้อหน้าหมุนได้ 360 องศา ช่วยลดการสั่นสะเทือน เข็นง่าย One-Piece Compact Fold พับเก็บแล้วได้ขนาดกะทัดรัด พกพาสะดวก มีหลังคาบังแสงขนาดใหญ่ สามารถรูดซิปปรับขยายได้ มีช่องด้านบน เปิด – ปิด เพื่อระบายอากาศ และมีตะกร้าใส่ของขนาดใหญ่

ยี่ห้อ	GLOWY
ราคา	฿8,990

5. Britax รุ่น SEED PAPILIO

Britax รถเข็นเด็กพรีเมี่ยม รุ่น SEED PAPILIO เหมาะสำหรับเด็ก 6 เดือน – 4 ปี หรือรองรับน้ำหนักได้ 17 กก. สามารถใช้ควบคู่กับคาร์ซีทได้ เพราะระบบการเดินทาง Travel system ด้ามจับสามารถปรับความสูงต่ำได้มีตะกร้าขนาดใหญ่ จุของได้เยอะล้อยางขนาดใหญ่เพื่อความ Smooth ในทุกๆ การเดินทาง มี Soft cocoon seat ที่นั่งรังไหมรองรับสรีระของลูกน้อยได้เป็นอย่างดี นุ่ม นั่งสบาย หรูหรา รถเข็นเด็กรุ่นนี้สามารถจัดตำแหน่งหลังลูกของคุณได้อย่างนุ่มนวล ทั้งในแนวตั้ง แนวนอน ผ้า elastic jersey fabric ตัดเย็บแบบ organic-shaped ช่วยปกป้องลูกน้อย ที่นั่งแบบรังไหมออกแบบโดยอุตสาหกรรมชั้นนำของประเทศเดนมาร์ก ใช้วัสดุที่มีคุณภาพสูง มาพร้อมสายคาดนิรภัย 5 จุด สามารถช่วยปรับให้เข้ากับตำแหน่งความสูงของเด็กที่แตกต่างกัน เหมาะสำหรับมีแผ่นรองศีรษะเบาะนุ่ม ตัวโครงสร้างทำจากแมกนีเซียม และอะลูมิเนียม เพื่อเพิ่มเสถียรภาพ แข็งแรง ทนทาน แต่มีน้ำหนักที่เบาสามารถปรับระดับที่จับได้ถึง 2 ตำแหน่ง เพื่อให้เหมาะกับความสูง ถือว่าเป็นรถเข็นเด็กที่ดีไซน์หรู สามารถปรับได้ตามสรีระของเด็ก ใช้งานได้นาน แนะนำเลยค่ะ

ยี่ห้อ	Britax
ราคา	฿49,900

6. CHICCO Bravo Le Cleartex รุ่น CH420870115600

รถเข็นเด็ก CHICCO Bravo Le Cleartex รุ่น CH420870115600 รุ่นนี้มาพร้อมเบาะ Support ระบายอากาศได้ดี ปรับใช้ได้ 2 ด้าน หันหน้าเข้า และหันหน้าออก มีแบบผ้า และตาข่าย ปรับใช้ได้กับทุกฤดู มาพร้อมช่องใส่ของมีซิปปิด หลังคาบังแดดสามารถยืด หดได้ ทำจากผ้า UPF 50+ ป้องกัน UV 50+ ผ่านมาตรฐาน UPF มีหน้าต่างด้านข้าง นอกจาก นี้ยังมีนวัตกรรมใหม่ในเนื้อผ้า ปราศจากสารเคมี ติดไฟยาก อ่อนโยนต่อทารก เนื้อผ้า ได้ผ่านการรับรองจาก Greenguard Gold ว่าได้มาตรฐานสำหรับการปล่อยสารเคมีต่ำ ดีต่อสุขภาพของทารก รถเข็นรุ่นนี้ดีไซน์ทันสมัย ปรับเอนนอนได้ 3 ระดับ มีระบบโช๊คกันสะเทือนทุกล้อ ช่วยให้นุ่มเป็นพิเศษ เข็นได้ไหลลื่น ด้ามจับปรับระดับสูงต่ำได้ 3 ระดับ พับเปิด ปิด มาพร้อมเข็มขัดรัด 5 จุด ป้องกันลูกน้อย ล้อหน้าเดี่ยว และพับเก็บได้ง่าย สำหรับรถเข็นเด็กแบรนด์ CHICCO รุ่นนี้เป็นอีกหนึ่งแบรนด์ที่น่าใช้ ปลอดภัยสำหรับลูกน้อยตลอดการเดินทางแน่นอนค่ะ

ยี่ห้อ	CHICCO Bravo Le Cleartex
ราคา	฿18,396

7. COMBI รุ่น MECHACAL HANDY AUTO4 BE

COMBI รถเข็นเด็กดีไซน์สวย สีสันสดใส รุ่น MECHACALHANDY รุ่นนี้มาพร้อมเบาะขนาดกว้างและยาวเป็นพิเศษ สามารถปรับนอนได้ถึง 170 องศา ตัวเบาะหนานุ่มเป็นพิเศษ ช่วยให้ลูกน้อยรู้สึกสบายยิ่งขึ้น พร้อมช่วยระบายอากาศได้ดี แม้ในช่วงฤดูร้อน มีแผ่น Egg Shock ใต้เบาะนั่งช่วยรองรับแรงสั่นสะเทือนได้มากถึง 2 เท่า ผ้าเบาะสามารถถอดออกมาซักด้วยเครื่องซักผ้าได้ เพิ่มความปลอดภัยให้ลูกน้อยด้วยเข็มขัดนิรภัย 5 จุด ปลดล็อกได้ง่ายเพียงปุ่มเดียว กางหรือพับเก็บด้วยมือเดียวได้ ด้ามเข็นปรับได้ 2 ทิศทาง ไว้ข้างหน้า หรือหลัง รุ่นนี้ล้อหมุนอัตโนมัติ 360 องศา ทั้ง 4 ล้อ เวลาเลี้ยวสมูท เลี้ยวง่ายสะดวกสบาย ล้อทั้ง 4 ล้อเป็นล้อยางแบบนิ่มช่วยรองรับแรงสั่นสะเทือนได้มากขึ้น อีกทั้งหลังคาขนาดใหญ่ที่ช่วยป้องกันรังสี UV ถึง 99% มาพร้อมตะกร้าใส่ของขนาดใหญ่ จุได้ถึง 5 กก. ค่ะ สำหรับครอบครัวไหนที่ชอบเดินทางท่องเที่ยว และพาลูกน้อยไปด้วย COMBI รถเข็นเด็กรุ่นนี้เป็นทางเลือกที่ดีเลยค่ะ เหมาะสำหรับครอบครัวที่รักการท่องเที่ยว

ยี่ห้อ	COMBI
ราคา	฿19,530

8. รถเข็นเด็ก CAMERA รุ่น HOOV PLUS2

รถเข็นเด็ก CAMERA รุ่น HOOV PLUS2 เหมาะกับเด็กแรกเกิด ถึงเด็กที่มีน้ำหนัก 30 กก. รุ่นนี้มีเข็มขัดนิรภัย 5จุด ป้องกันเด็กลื่นไหลจากที่นั่ง เบาะสามารถปรับเอนนอน มีหลังคากันแดดใหญ่เป็นระบบแม่เหล็ก ปิด-เปิดง่าย พร้อมช่องระบายอากาศ มีด้ามจับ และบาร์ที่กั้นทำจากหนัง EVA Foam ให้สัมผัสที่นุ่มเมื่อเด็กจับ สามารถถอดได้ มีตะกร้าใส่ของขนาดใหญ่ จุได้ 5 กก. มีซิปปิด พับเก็บง่ายเหมือนกระเป๋าเดินทาง รุ่นนี้มีที่คลุมให้ ช่วยกันฝน ป้องกันฝุ่นละอองขนาดเล็ก หิมะ และเชื้อไวรัสตามอากาศค่ะ พร้อมทั้งยังมีมุ้งกันยุง กันแมลงมาให้ด้วย ตัวคันชักลากแบบใหม่ แข็งแรง ทนทาน สามารถล็อคได้ 3 ระดับตามความสูงของคนที่เข็น มีระบบ One Break ใช้งานง่ายเพียงเหยียบลงไปหรืองัดขึ้น สะดวกสบายด้วยล้อหน้าหมุน 360 องศา มีกระเป๋าเก็บรถเข็น ทำให้สะดวกสบายตลอดการเดินทาง สำหรับพ่อ แม่ท่านไหนมองหารถเข็นเด็กที่ราคาไม่แพงมาก และปลอดภัยสำหรับลูก แนะนำCAMERA รุ่นนี้เลยค่ะ

ยี่ห้อ	CAMERA
ราคา	฿6,590

9. Aprica รุ่น Luxuna Cushion

รถเข็นเด็กดีไซน์ทันสมัย Aprica รุ่น Luxuna Cushion สำหรับแรกเกิด – 3 ปี หรือ น้ำหนัก 2.5 – 15 kg. ค่ะ รุ่นนี้มีนวัตกรรมใหม่ล่าสุดจากญี่ปุ่น Sofa Cushion ทำให้ลูกหลับสนิทไร้แรงสั่นสะเทือนตลอดการเดินทาง ด้วยสปริงตัว S ที่ใต้เบาะนอนจะช่วยดูดซับแรงสั่นสะเทือน ลูกนั่งสบายเสมือนยกโซฟามาไว้ในรถเข็น พร้อมล้อที่ออกแบบพิเศษให้มีโช๊คกันกระแทกในตัว เข็นได้แม้ทางไม่เรียบ หรือขึ้นทางต่างระดับ รุ่นนี้มีชุดหมอนซัพพอร์ตทารกให้ด้วยค่ะ ตัวเบาะระบายอากาศได้ดี ลดความอับชื้น มีช่องระบายอากาศด้านหลัง และฉนวนกันความร้อน ทำให้ลูกไม่รู้สึกร้อนขณะนั่ง ล้อหมุนอัตโนมัติ 360องศา ทั้ง 4 ล้อ เลี้ยวในที่แคบได้ง่าย ปรับเข็นได้ 2 ทาง หน้า และหลัง มีหลังคากันแดดขนาดใหญ่ ป้องกัน UV มีช่องระบายอากาศตาข่ายด้านบน เปิด-ปิด มองเห็นลูกน้อยได้ โครงสร้างรถเข็นออกแบบลดรอยต่อ แข็งแรงทนทาน พับเก็บ หรือ กางได้ด้วยมือเดียว มีตะกร้าใส่ของขนาดใหญ่ให้ และสามารถถอดซักได้ทุกชิ้น

ยี่ห้อ	Aprica
ราคา	฿25,900

10. BabyStyle รุ่น Oyster Max

รถเข็นเด็กเท่ ดีไซน์หรู สัญชาติดี จากแบรนด์ BabyStyle รุ่น Oyster Max ครบทุก Function การใช้งานเพื่อความสบาย และปลอดภัยของลูกน้อย รุ่นนี้ออกแบบให้สามารถซื้อที่นั่งเสริมสำหรับแฝดหรือพี่น้องได้ค่ะ ใช้ได้ตั้งแต่แรกเกิด ถึง รองรับน้ำหนักได้ 20 kg ปรับนอนราบได้ วัสดุที่ทำเป็นเนื้อผ้า และด้ามจับหนัง โดดเด่นไม่เหมือนใคร ตัวล้อมีขนาดใหญ่แข็งแรงไม่แตกง่าย มีระบบโช้คลดแรงสั่นสะเทือนเพื่อความปลอดภัยสำหรับลูกน้อย เวลาเข็นในทางที่ขรุขระ ที่นั่งสูง ผ้าคลุมยืดความสูงได้ ทำให้ไม่ติดศีรษะน้องที่ตัวสูง พร้อมทั้งขยายออกได้ 99% และยังป้องกันรังสี UV cut ระบายอากาศได้ดี พับเก็บง่ายสะดวกต่อการใช้งาน มีตะกร้าใส่ของขนาดใหญ่ใต้รถเข็น สามารถปรับเข็นได้ 2 ทิศทางเปลี่ยนหน้าหลังได้ที่พักขากับที่จับกันตกปรับระดับได้ตามการนั่งของลูกน้อย สามารถ lock และ unlock ได้ง่ายๆ ด้วยการเหยียบที่เดิม สำหรับ BabyStyle รถเข็นเด็กรุ่นนี้ตอบโจทย์การใช้งานได้ทั้ง ครอบครัวที่มีลูก 1 และ 2 คนได้เป็นอย่างดี ดีไซน์เท่ สวยเก๋ และยังปลอดภัยสำหรับลูกน้อย มินนี่แนะนำเลยค่ะ

ยี่ห้อ	BabyStyle
ราคา	฿15,900